Sunday, October 23, 2011

แนะนำอาชีพ 'ชีสพายปทุมบงกช'

แนะนำอาชีพ เกี่ยวกับ'บัว'เป็นพืชที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย ทุกส่วนของบัวล้วนแต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเมล็ด, เกสร, กลีบดอก, สายบัว ฯลฯ โดยส่วนมากคนไทยจะนิยมนำบัวมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน และก็มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งคิดค้นเมนูขนมหวานจากบัว ใช้ชื่อว่า “ชีสพายปทุมบงกช” ซึ่งก็น่าสนใจ...

หมี-นายบุญมี สงวนทอง, นุ่น-นางสาวกนกวรรณ ตระการพงษ์ และจิ๊บ-นางสาวศิริวรรณ อักษรพาลี นักศึกษาปีที่ 1 สาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ร่วมกันคิดค้นเมนู “ชีสพายปทุมบงกช” ขึ้นมา โดยทั้งสามเล่าว่า การคิดค้นเมนูนี้ขึ้นก็เพราะต้องการดัดแปลงบัวให้ไปอยู่ในจานอาหารของชาติ ตะวันตก เพื่อเพิ่มมูลค่าของบัวสู่ระดับสากล ทั้งนี้ ขนมชีสพายปทุมบงกชเป็นเมนูทานเล่นที่ทำง่าย สามารถทำกันภายในครอบครัวได้ โดยมีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และหาซื้อวัตถุดิบได้ตามท้องตลาดทั่วไป

“ชีสพายปทุมบงกช จะให้ความรู้สึกของความกรุบกรอบ ความนุ่มเนียน และกลิ่นหอมชวนรับประทาน มีรสชาติครบถ้วนทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ลงตัวกันอย่างพอดิบพอดี เป็นขนมที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ที่สำคัญคือส่วนของบัวที่นำมาใช้ในการประกอบเมนูนี้จะเน้นไปที่สรรพคุณ อาทิ ในส่วนของเมล็ดบัว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ, เกสรบัว ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ยาหอม ยาลม ยาขับปัสสาวะ และรากบัว จะแก้ร้อนใน ระงับอาการท้องร่วง”

อุปกรณ์ที่ใช้ทำชีสพายปทุมบงกช ก็เป็นอุปกรณ์สำหรับการทำเบเกอรี่ทั่วไป อาทิ เครื่องตี, หม้อ, ฟอยล์, พิมพ์ขนม, ช้อน, ถ้วยตวง, ถาด, แปรง, ตะแกรง และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่สามารถหาได้จากในครัว เรือน

การทำชีสพายปทุมบงกช แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนคือ ครีมชีส ส่วนผสมก็มี ครีมชีส 1 ก้อน, ครีมข้น 1 กระป๋อง, นมข้นหวาน 1/4 กระป๋อง (98 กรัม), นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ, เจลาตินผง 1 ช้อนโต๊ะ (ละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ), น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ และเกสรดอกบัว 20 กรัม วิธีทำในส่วนของครีมชีส เริ่มจากนำครีมชีสใส่ภาชนะ แล้วใช้เครื่องตีปากตระกร้อตีให้เนียน ใส่ครีมข้นลงไป ตามด้วยนมข้นหวาน นมข้นจืด และเจลาติน ตีต่อไปจนเนียนฟู ตั้งพักไว้

ขั้นตอนการทำชีสพายปทุมบงกช เม็ดบัวบด ส่วนผสมก็มี เม็ดบัว 250 กรัม, นมสด 20 กรัม, เกลือ 1/2 ช้อนชา, น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำคือ นำส่วนผสมทุกอย่างใส่รวมกันแล้วบดให้ละเอียด ต่อไปทำ ซอสรากบัว ส่วนผสมก็มี น้ำทับทิม 1 ถ้วยตวง, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ, รากบัวเชื่อม 100 กรัม และเกลือนิดหน่อย วิธีทำคือนำรากบัวกับน้ำทับทิมมาปั่นรวมกันให้ละเอียด ตั้งไฟพอเดือด ปรุงด้วยเครื่องปรุงที่เหลือ ตั้งพักไว้

และอีกส่วนคือขั้นตอนการทำ พาย ใช้แครกเกอร์บดละเอียด 2 ห่อ, เนยละลาย 250 กรัม, เม็ดบัวบดละเอียด 100 กรัม วิธีทำก็นำทุกอย่างผสมกัน ทำการอัดลงในพิมพ์ โรยหน้าด้วยเม็ดบัว แช่เย็นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก็พร้อมใช้

เมื่อเตรียมส่วนผสมครบทั้ง 4 ส่วน 4 ขั้นตอนแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำเป็น “ชีสพายปทุมบงกช”
โดยเริ่มจาก นำพายที่แช่เย็นได้ที่มาหยอดด้วยครีมชีส ใส่ลงไปประมาณ 3/4 ของถ้วย แล้วนำเข้าแช่เย็นต่ออีกประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงนำมาราดด้วยซอสรากบัว แล้วตกแต่งด้วยเม็ดบัวบด ใบสะระแหน่ และรากบัวเชื่อม ก็เป็นอันเสร็จ

จากสูตรที่ว่ามาข้างต้นจะสามารถทำ “ชีสพายปทุมบงกช” ได้ประมาณ 23 ชิ้น มีต้นทุนวัตถุดิบประมาณ 350 บาท โดยสามารถตั้งราคาขายที่ชิ้นละ 20 บาท ขายหมดก็จะมีรายได้ก่อนหักต้นทุน 460 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจจะนำสูตร “ชีสพายปทุมบงกช” ไปต่อยอดทำเป็น “ช่องทางทำกิน” ก็เชิญได้เลย เจ้าของไอเดียไม่สงวนลิขสิทธิ์ ซึ่งก็ขอตบมือให้กับไอเดียเจ๋ง ๆ ของน้อง ๆ ทั้ง 3 คน กับเมนูชีสพายปทุมบงกชที่น่าจะมีการต่อยอดจริงจัง ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี โทร. 0-2549-3160.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=171424

No comments: