Sunday, March 13, 2011

แนะนำอาชีพ 'ขนมอาลัวกุหลาบ'

“อาลัว” ขนมหวานของไทย เอกลักษณ์-จุดเด่นคือมีสีสันและรูปร่างหน้าตาที่ชวนรับประทาน เหมาะแก่การเป็นของฝาก และยังเป็นขนมที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งร้านขนมไทย “สามหนุ่ม” ทำขนมชนิดนี้ขายก็ได้รับการตอบรับดีมาก จากจุดเด่นที่หน้าตาและรสชาติที่แปลกแตกต่างจากอาลัวที่ขายกันทั่วไป โดยทำเป็น “อาลัวกุหลาบ” ที่สวยงาม รสชาติก็จะไม่หวานมาก และสีไม่เข้ม ทำให้ขนมดูน่ารับประทาน เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา...

ออย-ภัทราพร เตียสุวรรณ์ เจ้าของร้านขนมไทยร้านนี้เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่เธอและแฟนจะหันมายึดอาชีพทำขนมไทยขายนั้น ทั้งสองเคยทำงานเป็นผู้ดูแลบังกะโลที่ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว พอทำไปนาน ๆ เข้าก็รู้สึกเบื่อ และคิดถึงอนาคตข้างหน้าว่าถ้ามีลูก แก่ตัวลง คงลำบาก เพราะเงินเดือนประจำนั้นไม่มีพอจะเหลือเก็บ

“ก็ปรึกษากัน ตอนนี้อายุเราทั้งคู่ยังไม่ถึง 30 ปี น่าจะเริ่มต้นทำอาชีพหรือธุรกิจอะไรสักอย่างเป็นของตนเองได้แล้ว จะมัวมานั่งทำงานและรอรับเงินเดือนคงไม่ไหว ก็ช่วยกันคิดและมองหาว่าจะทำอะไรกันดี แฟนก็บอกทำขนมขายดีกว่า แฟนเขาทำขนมเป็นเกือบทุกอย่าง เพราะที่บ้านแฟนเปิดร้านขนมไทยโบราณ ส่วนเราก็ขายเก่ง แต่สาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจทำขนมไทยขายเพราะคิดว่าในปัจจุบันคนไม่ค่อยกินขนม ไทย เราทั้งสองอยากอนุรักษ์ขนมไทย ทำขนมอร่อย ๆ ให้คนกิน จึงลาออกจากงานและพากันเข้ากรุงเทพฯ มาทำขนมไทยขายได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ซึ่งผลตอบรับดีมาก”

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมไทย อย่าง “อาลัวกุหลาบ” ก็มี... เตาแก๊ส, กระทะทองเหลือง, ไม้พาย, ถุงบีบ, หัวบีบเบอร์ 124 และเบอร์ 67, ร่มสำหรับทำฐาน, กรรไกร, นอตล็อกหัวบีบ, ไม้คลึง, พิมพ์สำหรับทำกระทง (พิมพ์วุ้นแบบที่เข้าเตาอบได้), เตาอบ, ผ้าแก้ว, หม้ออบลมร้อน เป็นต้น ส่วนวัตถุดิบส่วนผสมก็มี... แป้งสาลีตราบัวแดง, แป้งท้าวยายม่อม, นมสดรสจืด, หัวกะทิ, น้ำตาลทราย, เทียนอบขนม, สีผสมอาหาร (สีเขียว, สีชมพู, สีส้ม)

การทำ อันดับแรกต้องทำแป้งฐานก่อน ส่วนประกอบก็มี... แป้งสาลี, เนยสด และน้ำเปล่า โดยผสมแป้งสาลี เนย น้ำ ใส่รวมกัน นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดี พักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง คลึงแป้งแล้วแผ่ให้เป็นแผ่น ใช้พิมพ์ตัดกดเป็นรูปกระทง ก่อนจะนำไปอบพอเหลือง ตั้งพักไว้

ขั้นตอนการทำเป็น “อาลัวกุหลาบ” เริ่มจากนำแป้งสาลี กับแป้งท้าวฯมาร่อนผสมกัน แล้วนำไปอบควันเทียน พักไว้ ผสมน้ำตาลทราย น้ำกะทิ นมสด คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าแก้ว ก่อนจะนำแป้งที่เตรียมไว้ค่อย ๆ เทลงไปในส่วนผสมน้ำกะทินมสด นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดี ใส่ลงในกระทะทอง ยกขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง กวนเร็ว ๆ และแรงจนแป้งเหนียวข้นและใส แสดงว่าแป้งสุกแล้ว ยกลงมาพักไว้

ตักแบ่งแป้งออกเป็นส่วน ๆ เพื่อผสมสีแต่ละส่วนตามความชอบ (สีขาว คือไม่ต้องใส่สี )

ขั้นตอนต่อไปคือการบีบแป้งเป็นรูป “ดอกกุหลาบ” โดยใช้หัวบีบเบอร์แต่งหน้าเค้ก 124 ทำกลีบดอก และเบอร์ 67 ทำใบหรือกลีบเลี้ยง ตักแป้งอาลัวที่ผสมสีแล้วใส่ถุงบีบ แล้วล็อกหัวบีบ เวลาบีบต้องวางฐานกระทงบนร่ม เริ่มทำเกสรก่อน นำหัวบีบเบอร์ 124 ทำเกสร วางปากหัวบีบด้านกว้างลงกึ่งกลางร่ม ให้มือซ้ายหมุนร่มไปพร้อมกับมือขวาบีบแป้งอาลัว หมุนวนประมาณสองรอบครึ่ง ให้ออกมาเป็นลักษณะเลข ๑ ไทย แล้วปาดจบ

จากนั้นทำเป็นกลีบดอก วางปากหัวบีบลงบนฐานร่มแล้วค่อย ๆ บีบแป้งเป็นรูปโค้งยกให้สูงกว่าและโอบรอบเกสรเล็กน้อย แล้วปาดปากหัวบีบลงกับร่ม จะได้กลีบชั้นที่ 1 พอชั้นที่ 2 เริ่มตรงกึ่งกลางกลีบชั้นที่ 1 ทำสับหว่างไปอย่างนี้จนได้ขนาดที่ต้องการ ใช้กรรไกรตัดส่วนดอกออกจากฐาน ก่อนจะนำไปอบในหม้ออบลมร้อน หรือจะตากแดดก็ได้

ขนมอาลัวดอกกุหลาบ บรรจุในกล่องสวยเก๋ 8 ชิ้น ขายราคา 45 บาท นอกจากนี้ที่ร้านขนมไทยของออยยังมีขนมไทยอีกหลากหลายอย่างที่ชวนรับประทาน อาทิ ขนมใส่ไส้, วุ้นกะทิ, ขนมเหนียว, ขนมต้ม, ขนมชั้นกุหลาบ, ขนมถั่วแปบเสวย, ขนมลืมกลืน, ขนมกล้วย, ขนมมัน ฯลฯ ซึ่งจะทำหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ ทุกวัน

“ขนมไทย” ร้านขนมไทย “สามหนุ่ม” นอกจากขายที่ร้านทุกวันอังคาร-พฤหัสฯ-ศุกร์ ที่ซอยละลายทรัพย์ (สีลมซอย 5) และวันพุธขายที่กระทรวงการคลัง ยังสามารถรับไปจัดเลี้ยงนอกสถานที่และออกงานทั่วไป เช่น งานมงคล งานปีใหม่ งานวันเด็ก และงานเทศกาลอื่น ๆ ด้วย โดยติดต่อได้ที่ โทร.08-6662-4605 และ 08-5982-4146

นี่ก็บ่งบอกว่า “ขนมไทย” ยังมีอนาคต!!.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=126409

No comments: