Sunday, January 17, 2010

แนะนำอาชีพ'ขนมเปี๊ยะอบเทียน'

วันนี้ทางทีมงานมีข้อมูลอาชีพการทำ-การขายของกินที่รู้จักกันในวงกว้าง ราคาไม่แพง สามารถขายได้ตลอดทั้งปี และยิ่งขายดีในช่วงเทศกาล มานำเสนอ นั่นก็คือ “ขนมเปี๊ยะอบเทียน”

ธนพร ปิยะชัยศิริกุล หรือ คุณใหญ่ เป็นเจ้าของธุรกิจ “ขนมเปี๊ยะอบเทียน” ที่ใช้ชื่อว่า “จันทร์เอ๋ย” เจ้าตัวเล่าว่า ดำเนินธุรกิจนี้มาประมาณ 3 ปีแล้ว ด้วยความที่เป็นคนชอบทานขนมเปี๊ยะมาก และอยากจะมีขนมเปี๊ยะสูตรของตนเอง จึงเริ่มศึกษาการทำธุรกิจนี้เรื่อยมา พร้อมกับการทำขายไปในตัวด้วย
เมื่อมองว่าขนมเปี๊ยะเป็นตลาดขนมที่ขายได้เรื่อย ๆ และเป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน ในช่วงปลายปี 2552 จึงเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในการสร้างตราสินค้า พร้อม ๆ ไปกับความพยายามในการหาตลาดใหม่ ๆ ขึ้นมา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมากในระดับหนึ่ง

การลงทุนทำขนมเปี๊ยะขายนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากการทำขนมอื่น ๆ สำหรับขนมเปี๊ยะนั้นหลัก ๆ เป็นการลงทุนเครื่องกวนแป้ง สำหรับกวนไส้ถั่วเหลือง ซึ่งหากสามารถกวนได้ด้วยตนเองก็ไม่ต้องลงทุนซื้อ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ราคาค่อนข้างสูง ส่วนเครื่องตีแป้งไม่ต้องใช้ เพราะขนมเปี๊ยะส่วนใหญ่จะใช้มือและใช้ไม้คลึงแป้งนวด สิ่งอื่นที่ต้องลงทุนซื้อคือเตาอบ และตู้อบควันเทียน ซึ่งตู้อบควันเทียนนั้นประยุกต์ใช้ตู้กับข้าวแทนก็ได้

วิธีทำขนมเปี๊ยะอบเทียน เริ่มที่ส่วนผสมของ แป้งชั้นใน ตามสูตรใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์ 350 กรัม ต่อเนยขาว 160 กรัม โดยผสมแป้งและเนยขาวให้เข้ากัน แล้วแบ่งแป้งให้ได้ 40 ชิ้น หรือ 40 ก้อน

สำหรับส่วนผสมของ แป้งชั้นนอก ตามสูตรคือ แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม ต่อน้ำมันพืช 100 กรัม, น้ำตาลทราย 75 กรัม, น้ำเปล่า 75 กรัม, ไข่แดงสำหรับทาหน้า 2 ฟอง และไข่เค็ม 10 ฟอง วิธีทำคือละลายน้ำตาล น้ำเปล่า น้ำมันพืช ให้เข้ากัน ผสมกับแป้ง นวดให้เข้ากัน จนแป้งเนียน พักไว้ 10 นาที แบ่งแป้งเป็นก้อนให้ได้ 40 ก้อนเช่นกัน

ลำดับถัดมานำแป้งชั้นนอกหุ้มแป้งชั้นใน คลึงเป็นแผ่นยาว ม้วนเป็นแท่ง แล้วตัดแบ่งออกเป็น 2-4 ชิ้น

จากนั้นนำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นกลม แล้วนำมาใส่ไส้ พร้อมไข่แดงของไข่เค็มซึ่งตัดออกเป็น 4 ชิ้น แป้งแต่ละชุดใส่ไข่เค็ม 1 ชิ้น ใส่ลงไปพร้อมไส้ถั่วเหลืองลงตรงกลาง แล้วหุ้มแป้งให้มิด ทาหน้าด้วยไข่แดง เพื่อทำให้ขนมน่าทาน นำเข้าเตาอบแล้วอบที่ความร้อนประมาณ 200 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 10-15 นาที จนกระทั่งสุก จากนั้นนำขนมเข้าอบเทียนประมาณ 1-2 คืน

ในส่วนของ ไส้ขนมเปี๊ยะ ซึ่งเป็นไส้ถั่วเหลืองนั้น ส่วนผสมประกอบด้วยถั่วเขียวกะเทาะเปลือกเป็นหลัก ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และใช้น้ำมันพืชด้วย วิธีทำเริ่มที่แช่ถั่วเขียวกะเทาะเปลือก นำไปต้มจนเปื่อย และน้ำเริ่มแห้ง เติมน้ำตาลทรายพอประมาณ และเกลือนิดหน่อย กวนจนกระทั่งแห้ง จึงเติมน้ำมันพืช กวนจนแห้งอีกครั้ง ก็พร้อมใช้เป็นไส้ขนมเปี๊ยะ

“ขนมเปี๊ยะอบเทียน” นี้ มีจุดเด่นคือไม่ใส่สารกันบูด แต่สามารถเก็บไว้รับประทานให้หมดได้ภายใน 3 วัน โดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น แต่หากใส่ตู้เย็นจะเก็บไว้ได้นานขึ้น แต่ก็ไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์

สำหรับราคาขายนั้นมี 3 ราคาตามปริมาณการบรรจุแพ็คเกจคือ ขนมเปี๊ยะ 8 ชิ้น ราคา 60 บาท, 14 ชิ้น ราคา 100 บาท และบรรจุ 24 ชิ้น ราคา 170 บาท

ธนพรแนะนำว่า วิธีขายขนมเปี๊ยะให้ขายได้คล่องนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ซึ่งแม้ว่าขนมเปี๊ยะ ส่วนมากจะขายดีมากในช่วงเทศกาล แต่ในแต่ละปีจะมีเทศกาลไม่กี่ครั้ง ดังนั้นในแต่ละวันจะต้องหาตลาดขายให้ได้มากที่สุด เช่นหมุนเวียนขายไม่ต่ำกว่าวันละ 3 แห่ง หรือมากกว่านั้น เพื่อจะได้กระจายขนมเปี๊ยะออกไปให้ได้มากที่สุด และการได้ส่งออกไปขายหลาย ๆ ที่ภายในวันเดียวนั้น หมายความว่าขนมเปี๊ยะจะเป็นที่รู้จักมากขึ้น

นอกจากนี้ การทำตราสินค้าที่ทันสมัย และมีหมายเลขโทรศัพท์แจ้งบอกลูกค้าไว้ที่บรรจุภัณฑ์ด้วย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเองไปในตัว ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

ใครสนใจขนมเปี๊ยะอบเทียน “จันทร์เอ๋ย” ต้นตำรับชาววัง ต้องการติดต่อ คุณใหญ่-ธนพร ปิยะชัยศิริกุล ติดต่อได้ที่ โทร.08-5353-3863 และ 08-7697-7678 หรือ http://topdessert.igetweb.com

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=41853&categoryID=525

No comments: