Friday, August 26, 2011

แนะนำอาชีพ ‘บ้านสุนัข’

ตลาดสินค้าของกลุ่มคนรักสุนัข รัก “น้องหมา” ยังถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะมีการเติบโตสวนกระแสตลาดสินค้าประเภทอื่น ๆ หลายประเภท ยิ่งถ้ารู้จักเติมไอเดีย ออกแบบสินค้าได้ลงตัวสวยงาม โอกาสที่จะทำเงินดีก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน อย่างเช่นงาน “บ้านสุนัข” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอกันอีกครั้ง ในอีกรูปแบบ...

“หนึ่งฤทัย คชไกร” ซึ่งผลิต “บ้านสุนัข” จำหน่าย เล่าว่า สืบเนื่องมาจากการทำธุรกิจรับฝากเลี้ยงสุนัข โดยบริการของที่ร้านจะรับฝากเฉพาะสุนัขพันธุ์เล็กและกลางที่มีน้ำหนักไม่ เกิน 15 กิโลกรัม จากนั้นจึงคิดต่อยอดโดยผลิตบ้านสุนัขเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการหา ที่อยู่อาศัยให้กับสุนัขตัวโปรด โดยใช้ชื่อว่า “โฮมสวีทโฮม” จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองคือ www.homesweethomebkk.com สำหรับบ้านสุนัขที่ออกแบบนั้นจะจำลองแบบบ้านของคนมาทำ โดยเน้นที่ความสบายและไม่มีการติดกรงให้สุนัขอึดอัด ซึ่งแรก ๆ ทดลองทำเพื่อใช้เอง ต่อมามีลูกค้าเห็นเข้าและชอบจึงขอให้ช่วยออกแบบให้ จนต่อมาได้กลายเป็นอีกธุรกิจที่แตกยอดออกมาจากงานบริการ กลายเป็นงานบ้านสุนัขอย่างที่เห็น...

“บ้านสำหรับสุนัขที่ทำนี้ถอดแบบมาจากบ้านคน ทั้งในเรื่องรูปทรง สี และประโยชน์ใช้สอยซึ่งสามารถตอบโจทย์ในเรื่องกันแดด กันฝน กันยุง เป็นหลัก โดยพยายามดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของสุนัข เช่น ประตูเปิด-ปิดแบบสวิง ล้อเลื่อน รั้ว ระเบียง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของสุนัขเป็นหลัก” หนึ่งฤทัยกล่าว

รูปแบบบ้านสุนัขที่เธอออกแบบ ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 20 แบบ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขนาด ประกอบด้วย ไซส์ S (ขนาดกว้าง 80 ลึก 60 สูง 90 เซนติเมตร) ไซส์ M (ขนาดกว้าง 100 ลึก 80 สูง 110 เซนติเมตร) ไซส์ L (ขนาดกว้าง 120 ลึก 100 สูง 120 เซนติเมตร) และไซส์ XL (ขนาดกว้าง 150 ลึก 100 สูง 140 เซนติเมตร) โดยลูกค้าจะพิจารณาเลือกจากขนาดพื้นที่ที่ใช้วางบ้านสุนัขกับงบประมาณของตัว เอง

กลุ่มลูกค้าหลัก ก็แน่นอนว่าเป็นกลุ่มคนรักสุนัข นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าที่เลี้ยงแมวและกระต่ายเป็นลูกค้าเพิ่มเข้ามาด้วย จุดเด่นของบ้านสุนัข เธอบอกว่า จะเน้นที่วัสดุคุณภาพสูง และเน้นให้ตรงตามกับความต้องการสุนัข โดยนำผลวิจัยต่าง ๆ มาประกอบ ซึ่งตอบโจทย์ของลูกค้าด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ในเรื่องของวัสดุก็จะคำนึงถึงความปลอดภัยของสุนัข ซึ่งวัสดุบางอย่างแม้จะลดต้นทุนแต่อาจไม่เหมาะกับชีวิตประจำวันของสุนัข จนอาจส่งผลหรือทำให้สุนัขเกิดอันตรายได้

“ความต้องการของสุนัขกับคนนั้นต่างกันในบางเรื่อง การออกแบบของเราจึงต้องเน้นที่ความสะดวกและความชอบของคนเลี้ยง แต่ต้องสอดคล้องกับชีวิตประจำวันของสุนัขด้วย” หนึ่งฤทัยกล่าว

ทุนเบื้องต้น อยู่ที่ประมาณ 250,000-300,000 บาท ทุนวัตถุดิบ อยู่ที่ประมาณ 75% จากราคาขาย รายได้นั้น ราคาของบ้านสุนัข เริ่มตั้งแต่ 8,500 ถึง 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบบ ขนาด และอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น ถ้าบ้านสุนัขมีรั้ว ราคาก็จะแพงกว่าแบบบ้านที่ไม่มีรั้ว เป็นต้น

วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็นต้องใช้ประกอบด้วย แผ่นไม้สังเคราะห์, วู้ดซีเมนต์บอร์ด, สีน้ำอะคริลิค, มุ้งลวด, โต๊ะเลื่อยและใบเลื่อยวงเดือน, ปืนลม, แท่นเลื่อยฉลุ, เครื่องตัดไฟเบอร์สำหรับตัดไม้, กาวยาแนว และปืนยิงกาว

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากการวางโครงร่างของแบบบ้านสุนัขที่จะผลิต โดยเริ่มจากการคำนวณว่าบ้านสุนัขหลังนั้นจะประกอบด้วยประตูกับหน้าต่างกี่ บาน จะประกอบหลังคาแบบจั่วหรือแบบกล่อง จากนั้นเมื่อวางโครงเสร็จก็เริ่มทำในส่วนของผนัง โดยติดตั้งแผ่นไม้วัสดุผสมซ้อนเกล็ดเข้ามุม 45 องศา เหตุที่ต้องวางแผ่นไม้ที่ทำเป็นผนังแบบนี้ ก็เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลตีย้อนเข้าบ้านขณะที่ฝนตกแรง ๆ เสร็จจากการทำฝาผนังก็เริ่มทำบานประตูและหน้าต่างของบ้านสุนัข โดยจุดเด่นของบ้านสุนัขรูปแบบนี้จะมีเทคนิคเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ ให้สุนัขข่วนมุ้งลวดขาด เมื่อประกอบส่วนประกอบเสร็จแล้ว จากนั้นก็ทำการลงสีน้ำอะคริลิค ทำการตรวจความเรียบร้อย เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ

“วิธีการและขั้นตอนมีไม่มาก แต่ต้องใช้ความละเอียดในทุกขั้นตอน” หนึ่งฤทัยกล่าว

หนึ่งฤทัยผลิตงาน “บ้านสุนัข” นี้อยู่ที่ เลขที่ 81/11 ซ.ชัยพฤกษ์ 16 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โทร.08-1926-2818 และมีเว็บไซต์ดังที่ว่ามาข้างต้นเป็นช่องทางจำหน่าย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ด้วยสินค้าที่เจาะตลาดสัตว์เลี้ยง กลุ่มคนรักสุนัข ที่น่าสนใจ

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ : เรื่อง-ภาพ
------------------------------------------------

คู่มือลงทุน...บ้านสุนัข


ทุนเบื้องต้น 250,000-300,000 บาท

ทุนวัสดุ ประมาณ 75% ของราคา

รายได้ ราคา 8,500-20,000 บาท

แรงงาน ตั้งแต่ 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด กลุ่มคนเลี้ยงสุนัข

จุดน่าสนใจ ตลาดยังเติบโตเรื่อย ๆ

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=498&contentId=159569

No comments: