Sunday, September 15, 2013

แนะนำอาชีพ ‘เครปข้าวหอม’

คนไทยเราผูกพันกับ “ข้าวหอมมะลิ” มาช้านาน ซึ่งข้าวหอมมะลิไทยมีรสชาติอร่อย เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม จนได้รับการยอมรับว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ต่างชาติก็ยอมรับในความเป็นเลิศนี้ ซึ่งข้าวหอมมะลินี่แปรรูปเป็นขนมก็อร่อย และวันนี้ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการแปรรูปข้าวไทย ทำเป็น “เครปข้าวหอมซอสมะม่วง” มานำเสนอ... ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เจ้าของสูตรและไอเดีย “เครปข้าวหอมซอสมะม่วง” เล่าให้ฟังว่า ได้มีการประยุกต์โดยนำข้าว 5 อย่าง ประกอบด้วย ข้าวซ้อมมือหอมมะลิ, ข้าวซ้อมมือมะลิแดง, ข้าวซ้อมมือมะลินิล, ข้าวกล้องเหนียว และจมูกข้าว มาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำแผ่นเครป โดยในข้าวสายพันธ์ที่กล่าวมามีโปรตีนสูง มีธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม โพแทสเซียม ซึ่งต้านอนุมูลอิสระได้ดี จากคุณประโยชน์นี้จึงได้นำมาเป็นส่วนผสมในการทำแป้งเครป ส่วนซอสมะม่วงก็ช่วยให้เครปอร่อยหอมหวาน ประกอบกับไทยมีมะม่วงทุกฤดูกาล โดยมะม่วงที่ใช้คือ มะม่วงมหาชนก ซึ่งราคาไม่แพง “พอเราเสริมข้าวหอมเข้าไป ก็ทำให้แป้งเครปมีคุณค่าโภชนาการเพิ่มมากขึ้น โดยจะได้วิตามินบี 12 ป้องกันโรคเหน็บชาและโรคปากนกกระจอก เราผสมในส่วนของแป้งเครป ทำให้แป้งมีลักษณะพิเศษตรงที่มีส่วนผสมของข้าวหอม ขนมจะมีความนุ่ม เหนียว มีกลิ่นหอมมาก และมีความหวานในตัว เครปชนิดนี้รับประทานกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวได้ทุกชนิด เช่น มังคุด สตรอเบอรี่ ฯลฯ สามารถปรับได้ตามความชอบ ใครสนใจสามารถนำไปต่อยอดไอเดียเป็นอาชีพก็ได้” อุปกรณ์ที่ใช้ทำ “เครปข้าวหอมซอสมะม่วง” หลัก ๆ ก็มี... กระทะเทฟล่อน (ขนาดกลาง), เตาแก๊ส, ไม้พายขนาดเล็ก, ตะกร้อมือ และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่หยิบยืมเอาจากในครัวได้ วัตถุดิบหรือส่วนผสมหลัก ๆ ที่ใช้ในการทำ “ตัวแป้ง” ตามสูตรก็มี... แป้งเอนกประสงค์ ½ ถ้วยตวง, แป้งข้าวโพด ½ ถ้วยตวง, ข้าวหอมมะลินึ่งสุก 1 ถ้วยตวง, นมข้นจืด 1½ ถ้วยตวง, ไขไก่ 4 ฟอง, ไข่แดง 2 ฟอง, วานิลา 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1 ช้อนชา, น้ำตาลทราย ¼ ถ้วยตวง, เนยละลาย 85 กรัม และน้ำเย็น 1½ ถ้วยตวง สำหรับส่วนผสมของ “ซอสมะม่วง” ประกอบด้วย... เนื้อมะม่วงสุก 250 กรัม, น้ำมะม่วง 1 ถ้วยตวง, น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ, นมสดรสจืด ½ ถ้วยตวง, น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 1 ช้อนชา ขั้นตอนการทำ “เครปข้าวหอมซอลมะม่วง” เริ่มจากทำแป้งเครป สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือนำข้าว 5 อย่างคือ ข้าวซ้อมมือหอมมะลิ, ข้าวซ้อมมือมะลิแดง, ข้าวซ้อมมือมะลินิล, ข้าวกล้องเหนียว และจมูกข้าว มาผสมรวมกัน แล้วหุง เมื่อข้าวสุกแล้วก็นำมาผึ่งไว้ให้เย็นสนิท จากนั้นนำไปปั่นรวมกับนมสดและน้ำเย็น ปั่นจนละเอียดแล้วเทใส่อ่างผสมพักไว้ นำแป้งเอนกประสงค์ แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย และเกลือ ผสมรวมกัน ใส่ตามลงไปในอ่างผสม คนให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่ ไข่แดง วานิลา นมข้นจืด และเนยละลาย ตามลงไป ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันและเนียนดี จากนั้นก็นำส่วนผสมแป้งไปทำการกรองด้วยกระชอนละเอียด เสร็จแล้วนำส่วนผสมแป้งที่ได้ไปพักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 1 คืน เพื่อให้แป้งเซ็ตตัว (เมื่อต้องการนำออกมาใช้ก็จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น) ต่อไปเป็นวิธีทำซอสมะม่วง นำเนื้อมะม่วงสุกที่เตรียมไว้หั่นใส่ในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำมะม่วง นมสด น้ำเชื่อม เกลือ ปั่นจนส่วนผสมละเอียด เทใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ แล้วนำลงพักไว้ให้เย็น ได้แป้งเครปและซอสมะม่วงเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำแผ่นเครป โดยนำแป้งออกมาจากตู้เย็น คนให้เข้ากันอีกรอบ ตั้งกระทะเทฟล่อนบนเตา ใช้ไฟอ่อน ๆ ทาเนยบาง ๆ ให้ทั่ว พอกระทะร้อนตักแป้งที่เตรียมไว้หยอดลงตรงกลางกระทะ กรอกแป้งให้กระจายทั่ว คอยดูแป้งไม่ให้หนาหรือบางเกินไป สังเกตเมื่อเห็นขอบแป้งเครปเริ่มร่อน ใช้ไม้พายแซะแล้วพลิกแป้ง อย่าให้ขาด แล้วทอดต่อไปอีกเล็กน้อย จนแป้งสุกเป็นสีเหลืองอ่อน จึงนำขึ้นมาพักไว้ เมื่อต้องการจะทำเครป ให้พับแผ่นแป้งตามรูปแบบที่ต้องการ ราดด้วยซอสมะม่วง ตักรับประทานพร้อม ๆ กัน ก็จะได้รับความอร่อยหวานนุ่มฉ่ำลิ้น ซึ่งจากส่วนผสมที่ว่ามาข้างต้นสามารถทำแผ่นแป้งเครปได้ประมาณ 80 แผ่น “เครปข้าวหอมซอสมะม่วง” พลิกแพลงจากเครปแผ่นใหญ่มาเป็นเครปขนาดย่อม แป้งเหนียวนุ่มอร่อย ใครสนใจจะนำไปต่อยอดเป็นสูตรสร้าง “ช่องทางทำกิน” ก็เชิญได้ และหากต้องการสอบถามเพิ่มเติมจาก ผศ.มาริน สาลี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ก็ติดต่อได้ที่ภาควิชาอาหารและโภชนาการ โทร.0-2549-3160-61 หรือ 08-4094-8222 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกหลายชนิด. เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ ---------------------------------------------- คู่มือลงทุน...เครปข้าวหอมซอสมะม่วง ทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบการทำขาย ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคา รายได้ ตั้งราคาขายให้มีกำไร 50% แรงงาน 1 คนขึ้นไป ตลาด ย่านอาหาร, ย่านชุมชนทั่วไป จุดน่าสนใจ ดีต่อสุขภาพเป็นจุดขายที่ดี ที่มา http://www.dailynews.co.th/article/384/232853

No comments: