Sunday, September 1, 2013

แนะนำอาชีพ ‘ซูชิข้าวไรซ์เบอรี่’

“ซูชิ” หรือ “ข้าวปั้น” หนึ่งในเมนูอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยนิยม ปัจจุบันเป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ของคนไทย ตั้งแต่ระดับร้านอาหารใหญ่ จนถึงร้านซูชิแผงลอยตามตลาดนัด และวันนี้ทีมช่องทางทำกินก็มีข้อมูลการทำการขายซูชิมานำเสนออีกครั้ง โดยเป็นรูปแบบที่สร้างสรรค์เพื่อเอาใจคนรักสุขภาพ กับ “ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอรี่” … ********************** ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่เป็นข้าวที่ถูกพัฒนาพันธ์ุขึ้นโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลักษณะเด่นคือมีสีม่วงเกือบดำ เมล็ดเรียวยาว เมื่อหุงสุกจะได้ข้าวที่นุ่ม มีกลิ่นหอม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสารที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ขัดขวางการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ของคอเลสเตอรอลชนิดเหลว จึงช่วยลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน รวมถึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและเส้นผม ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่จึงถูกใจผู้ที่รักสุขภาพ “ศุภชัย ไชยกาล” หรือ “ไชย” หนุ่มเมืองอุบลราชธานี เล่าให้ฟังว่า เดิมเคยทำงานในร้านอาหารชั้นนำและร้านอาหารญี่ปุ่นนานนับสิบปี ไต่เต้าจนกระทั่งได้เป็นเชฟ รวมถึงเคยไปทำงานเป็นเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ จึงมีประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นสูง สามารถปรุงประกอบได้ทุกเมนู ทั้งต้นตำรับและฟิวชั่น แต่ต่อมารู้สึกอิ่มตัวกับการเป็นลูกจ้าง จึงเดินทางกลับบ้านเกิด แต่งงานกับ เดือน-เบญจวรรณ และเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นของตัวเอง “ช่วงแรก ๆ กระแสตอบรับดีมาก แต่ก็เกิดจุดพลิกผัน มีร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ต่าง ๆ ทยอยเข้ามาเปิดในเมืองอุบลฯ มากขึ้นเรื่อย ๆ และดึงลูกค้าไปจากร้าน จนยอดตก ผมจึงไปปรึกษากับพาณิชย์จังหวัด ท่านให้ข้อคิดว่าทำไมถึงไม่ดัดแปลงทำซูชิแบบไทย ๆ ขาย ผมจึงคิดหาเมนูแปลกใหม่ เพื่อจะสร้างจุดขายให้แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ทดลองทำอยู่นานก็มาลงตัวที่การใช้ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ที่ปลูกในอุบลฯ เมื่อเอาไปให้พาณิชย์จังหวัดชิม ทุกคนพากันชมว่าไอเดียดี ใช้ภูมิปัญญาข้าวไทย จากนั้นก็พาผมไปออกบูธที่ประเทศลาวและกัมพูชาด้วย คนที่ได้ชิมซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอรี่จะบอกว่าเหมือนกับข้าวญี่ปุ่น หรืออร่อยกว่า เพราะมีความเหนียว นุ่ม แล้วยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว” ไชยบอกต่อไปว่า ซูชิที่ทำขายนี้ กลุ่มสุภาพสตรีจะนิยมมากเป็นพิเศษ โดยหน้าซูชินั้นมีให้เลือกกว่า 30 หน้า ทั้งแบบต้นตำรับและประยุกต์ เช่น กุ้ง, ปูอัด, ไข่ม้วน, ยำสาหร่าย, ไข่กุ้งส้ม, ไข่กุ้งเขียว, ไข่กุ้งแดง, ไข่กุ้งดำ, ปลาหมึกสไลด์, ทาโกะจังปรุงรส, ครีมหอยเชลล์, ปลาแซลมอน, ปลาไหล, สลัด ฯลฯ ซึ่งจะขายชิ้นละ 10 บาทเท่ากันเกือบทั้งหมด อาชีพนี้ ที่ต้องลงทุนเป็นหลักคือเรื่องวัตถุดิบ ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือมีน้อยมาก อาทิ เสื่อไม้ไผ่สำหรับม้วนข้าว, หม้อหุงข้าวไฟฟ้า, กระทะทำไข่ม้วน, อ่างไม้หรือสเตนเลส, มีดหั่นซูชิ, เขียง, กะละมัง, ตะหลิวปลายตัด, พายพลาสติก เป็นต้น โดยการทำซูชิจะเน้นใช้มือ ซึ่งหากมีฝีมือดี-รสชาติถึงขั้น ประกอบกับมีทำเลเหมาะในการขาย จะคืนทุนเร็วมาก วัตถุดิบในการห่อและทำหน้าข้าว หลัก ๆ จะมีอาทิ... แผ่นสาหร่าย, ผงวาซาบิ, แตงกวา, มายองเนส, งาขาวคั่ว และสำหรับซูชิบางแบบที่ราคาพิเศษ จะมีการใส่อะโวคาโดด้วย หน้าสลัด จะมี 3 หน้าคือ สลัดทูน่า สลัดกุ้ง สลัดปูอัด ส่วนผสมก็จะมีแตงกวา แครอท ผสมกับน้ำสลัด กับทูน่า กุ้งต้ม และปูอัด, หน้าไข่หวาน จะใช้ไข่ไก่ ผสมกับสาเก และน้ำตาลทราย ตั้งกระทะแบบสี่เหลี่ยมบนเตา ใส่น้ำมันและเนยลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติความหอมให้กับไข่หวาน การทอดต้องใช้ไฟระดับอ่อนสุดเพื่อให้ไข่สุกทั่ว ส่วนผสมที่เป็นหน้าต่าง ๆ ของซูชินั้น หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าที่มีการขายเครื่องปรุงอาหาร เทคนิคการหุงข้าวทำซูชิ จะใช้ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ข้าวหอมนิล ข้าวหอมมะลิ ในอัตราส่วน 2-1-5 โดยนำข้าว 3 ชนิดมาผสมกัน ซาวล้างให้สะอาด ก่อนจะนำไปหุงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใส่น้ำในปริมาณปกติเหมือนหุงข้าวทั่วไป ระหว่างรอข้าวสุกก็หันมาทำน้ำปรุงรสซูชิ ก็จะมีน้ำส้มสายชูหมัก น้ำตาลทราย เหล้าสาเก และเกลือนิดหน่อย นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น เมื่อข้าวที่หุงสุกแล้ว ก็ตักใส่อ่างไม้ ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาทีให้ระอุ แล้วจึงพรมด้วยน้ำปรุงรสซูชิที่เตรียมไว้ให้ทั่ว เคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนจะนำมาใช้ปั้นทำซูชิ การห่อหรือปั้นซูชิสามารถทำได้หลายแบบ ถ้าเป็นแบบกลม ๆ และแบบรี ๆ จะใช้สาหร่ายพันข้าว โดยการตักข้าวกะปริมาณพอดี ๆ ทำการม้วนให้ได้ขนาดที่ต้องการ กดให้แน่น เสร็จแล้วตัดให้ได้พอดีคำ หน้าซูชิที่ใช้ข้าวปั้นแบบกลม ๆ คือหน้าปลาไหล ไข่กุ้งส้ม ปลาหมึก สลัดต่าง ๆ และหน้าสาหร่ายที่โรยงาคั่วด้านบน ส่วนการทำอุระมากิซูชิ ซึ่งเป็นการห่อด้วยการนำสาหร่ายไว้ด้านใน เอาข้าวไว้ด้านนอก เมื่อหั่นออกมาแล้วนำไปคลุกงานั้น งาที่ใช้ต้องคั่วใหม่วันต่อวัน ซูชิที่พันออกมาเป็นแบบรี ๆ คือหน้าปลาหมึก ปลาแซลมอน ซาบะดอง ส่วนซูชิมากิจะบิดออกมาให้เป็นแบบสามเหลี่ยม ต้องจัดเรียงซูชิให้เป็นรูปดอกไม้ โดยจะต้องวางไส้ด้านใน จะมีแตงกวา แครอท และใส่มายองเนสเพิ่มรสชาติ ส่วนหน้าไข่หวาน ปูอัด กุ้งต้ม ต้องปั้นข้าวเป็นชิ้น ๆ ลักษณะออกรี ๆ วางหน้าต่าง ๆ ด้านบน แล้วพันด้วยสาหร่ายด้านบน ************************ “ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอรี่” เจ้านี้ การขายในปัจจุบันเน้นออกขายตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ในฐานะสินค้าโอทอป 4 ดาวของ จ.อุบลราชธานี รวมถึงมี “ช่องทางทำกิน” ในรูปแบบรับทำตามออร์เดอร์ รับออกงานและจัดเลี้ยงต่าง ๆ ซึ่งลูกค้าขาประจำจะคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ซูชิข้าวกล้องอุบลฯ” ใครสนใจ ต้องการติดต่อ ไชย-ศุภชัย ติดต่อได้ที่ โทร. 08-5631-9789. ที่มา http://www.dailynews.co.th/article/384/229914

No comments: