Friday, July 12, 2013

แนะนำอาชีพ ‘กิ๊บโบแฮนด์เมด’

งานฝีมือ-งานประดิษฐ์-งานแฮนด์เมด ต้องสร้างจุดเด่นชูจุดขายให้กับสินค้าที่ผลิตออกสู่ตลาด ยิ่งผลิตชิ้นงานได้ตรงจุดโดนใจลูกค้ามากเท่าไหร่โอกาสจะพบกับความสำเร็จก็มีเพิ่มขึ้นเท่านั้น อย่าง ’กิ๊บโบแฮนด์เมด“ ที่มีจุดเด่นตรงลวดลายผ้าสีสันสดใสน่ารัก มีความหลากหลาย โดนใจลูกค้าทั้งไทยและเทศ นี่ก็ถือเป็น ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ... ****** จริญญา สุขใจ และ วีรวุตต์ วิศาล เป็นผู้ที่ผลิตชิ้นงาน “กิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด” ออกจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี โดยจริญญาเล่าว่า จริง ๆ แล้วทั้ง 2 คนก็ไม่ได้ยึดอาชีพค้าขายมาตั้งแต่ต้น แต่เริ่มจากการเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ประมาณ 5-6 ปี พอมีลูกจริญญาก็ออกจากงานมาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน โดยแฟนยังทำงานประจำอยู่ ซึ่งช่วงที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกนั้นก็พยายามมองหาอาชีพเสริมเพื่อเป็นการหารายได้เพิ่ม ก็รับของพวกของกิฟต์ช็อปต่าง ๆ ไปขายตามตลาดนัดมหาวิทยาลัย ตระเวนขายไปเรื่อย ๆ ขายอยู่ได้ประมาณ 4-5 ปี ก็เริ่มมองว่างานที่รับมาขายนั้นจะเหมือนไปซ้ำกับเจ้าอื่น ๆ เยอะมาก เพราะเป็นงานที่รับมาขายเหมือนกัน จึงมองหาสินค้าใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับใครเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวเอง จนที่สุดก็มาลงเอยที่การทำ “กิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด” งานกิ๊บโบติดผมนี้ เริ่มมาจากการที่มักจะทำให้ลูกใช้ติดอยู่แล้ว เดิมก็ไม่ได้คิดว่าจะมาทำเป็นสินค้าจำหน่าย แต่ลูกใช้ติดผมไปโรงเรียนแล้วมีผู้ปกครองหลายคนเห็นแล้วชอบ มาสั่งซื้อ ก็เลยทำขาย พอเห็นว่าขายได้จึงเริ่มทำออกมาจำหน่ายอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซึ่งแรกเริ่มนั้นทำออกมาเพียงแค่ 10 ลาย และก็ไปขายตามตลาดนัดมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม หลังจากที่ทำออกจำหน่ายตามตลาดนัดได้ระยะหนึ่ง ตลาดก็เริ่มตัน กลุ่มลูกค้าไม่หลากหลาย จึงมีความคิดที่จะเริ่มมองหาตลาดใหม่ที่มีกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากขึ้น จนได้มาขายอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ชอบงานจะเป็นชาวต่างชาติประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นคนไทย จริญญากล่าวต่อว่า กิ๊บที่ทำออกมาจำหน่ายทุกชิ้นจะทำแบบตั้งใจ งานต้องเรียบร้อย แข็งแรง วัสดุที่นำมาใช้จะต้องใช้ที่มีคุณภาพซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อจะชอบทดลองดึงโบที่ติดดู ถ้าทำไม่แข็งแรงก็จะหลุด ลูกค้าก็ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของสินค้า นอกจากนี้การเลือกลวดลายผ้าและสีผ้าที่นำมาทำก็ต้องให้มีความหลากหลาย พยายามสังเกตว่าลูกค้าชอบสีสันไหน ถ้าลวดลายสีสันนั้น ๆ ขายออกได้เยอะก็ทำออกมาเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่โบที่มีสีสันสดใสจะขายดีกว่าสีที่ดูจืด ซึ่งการขายกิ๊บโบแฮนด์เมดก็จะต้องพยายามนำสินค้ามาเติมหน้าร้านให้เต็มอยู่ตลอด เพื่อให้ดูสะดุดตาลูกค้า นอกเหนือจากนั้น ทางร้านยังสร้างจุดขายให้กับร้านเพิ่มเติมอีกโดยการนำเศษผ้าที่เหลือจากการทำโบมาเย็บติดทำเป็นหูหิ้วบนแพ็กเกจสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหลาย ๆ ชิ้น และนอกจากจะมีกิ๊บติดผมเป็นสินค้าแล้วตอนนี้ก็ยังทำเป็นยางรัดผมเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าอีกชิ้นงานหนึ่ง วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำกิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด หลัก ๆ มีดังนี้คือ...กิ๊บติดผม, ผ้าคอตตอน 100%, ริบบิ้น (สายก้างปลา), ปืนยิงกาวร้อน, แท่งกาวร้อน, ด้าย, กรรไกร สำหรับกิ๊บติดผมสำเร็จรูปนั้นไปหาซื้อได้ที่ตลาดสำเพ็ง ส่วนผ้านั้นหาซื้อได้ที่ตลาดพาหุรัด โดยต้องเลือกซื้อผ้าหลากหลายสีหลากหลายลวดลาย ซื้อลายละประมาณ 1 เมตร โดยผ้า 1 เมตรสามารถทำโบได้ประมาณ 50 ชิ้น ซึ่งการซื้อผ้านั้นจะต้องไปเลือกซื้อทุกสัปดาห์เพราะผ้านี้มักจะมีแบบมีลวดลายใหม่ ๆ ออกมาเรื่อยอยู่ ๆ... ขั้นตอนการทำเริ่มจาก...นำผ้ามาทำการรีดให้ผ้านั้นเรียบก่อน จากนั้นก็ทำการตัดผ้าตามขนาดที่ต้องการ โดยการตัดผ้าจะตัดครั้งเดียวทั้งหมด ผ้ามีกี่ชิ้นกี่ลายก็ต้องตัดเตรียมไว้ ทีเดียวก่อน ซึ่งจะตัดผ้าให้ได้ขนาดประมาณ กว้าง 12 ซม. ยาว 14 ซม. โดยเวลาพับเป็นโบออกมาแล้วจะได้โบขนาดความยาวประมาณ 7 ซม. หลังจากที่ทำการตัดผ้าเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการพับผ้าเป็นโบ จับจีบให้สวยงาม ใช้ด้ายมัดตรงกลางโบให้แน่น แล้วก็ใช้ริบบิ้นพันทับด้ายให้เรียบร้อย ใช้ปืนยิงกาวร้อนยิงยึดติดให้แน่นหนา โดยต้องใช้กาวให้พอดี ต้องไม่มากเกินไปเพราะจะทำให้งานออกมาดูไม่สวย พอทำโบเสร็จแล้วก็นำมายึดติดกับกิ๊บติดผม ยึดติดด้วยกาวให้แน่น เท่านี้ก็พร้อมวางจำหน่าย ตอนนี้กิ๊บโบแฮนด์เมด และยางรัดผมโบแฮนด์เมด ของจริญญาและวีรวุตต์ มีหลากหลายสีสัน และหลากหลายลาย ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 10 บาท แต่ถ้าใครสั่ง 100 ชิ้นขึ้นไปจะได้ในราคาส่งคือชิ้นละประมาณ 6 บาท ****** ใครสนใจ ’กิ๊บโบแฮนด์เมด“ และยางรัดผมโบที่เป็นงานแฮนด์เมด ซึ่งเป็นกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ ในวันนี้ ร้านของจริญญาและวีรวุตต์ตั้งอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร ขายอยู่โซนทางเท้า จุดสังเกตคือร้านจะอยู่ตรงข้ามกับกรมการขนส่งฯ ขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หรือใครต้องการสั่งออร์เดอร์ก็โทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามได้ที่ โทร. 08-7912-5760. http://www.dailynews.co.th/article/384/218574

No comments: