Saturday, June 1, 2013

แนะนำอาชีพ ‘หมี่กรอบผลไม้’

“หมี่กรอบ” ของว่างไทย ๆ ที่มีมานาน ยุคนี้ก็ยังขายได้ ไม่ว่าจะวางขายที่ใด ร้านของฝาก ร้านอาหาร ตลาด หรือแม้กระทั่งตามริมถนนหนทางก็ยังมีคนซื้อ และหากทำให้มีความแปลกแตกต่าง มีการประยุกต์ไปตามยุคสมัย ตามกระแสสังคม อาทิ หมี่กรอบสมุนไพร หรือ “หมี่กรอบผลไม้” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้ ก็ยิ่งมีจุดขายที่ดี... อุมารินทร์ นาคบรรพตกุล หรือ คุณไก่ เจ้าของร้านขาย “หมี่กรอบผลไม้” ชื่อ “บ้านไก่” ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และตลาดน้ำคลองลัดมะยม เล่าว่า ขายหมี่กรอบผลไม้นี้มานานกว่า 9 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนหลังเกิดอาการเบื่องานประจำ คิดอยากจะค้าขาย เมื่อมีคนชวนจึงออกมาค้าขายเลย “แรก ๆ ออกมาก็ขายเสื้อผ้าที่ต่างจังหวัด และรับหมี่กรอบที่ทำสำเร็จรูปมาขายด้วย ซึ่งก็ขายได้ แต่ด้วยความที่อยากจะพึ่งตนเอง จึงพยายามลองหัดทำหมี่กรอบดู อาศัยหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตบ้าง ให้แม่สอนบ้าง แม้ว่าจะมีทิ้งบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็สู้มาเรื่อย ๆ จนประสบความสำเร็จ จนทำออกมาได้ดี” คุณไก่บอกต่อไปว่า แรกเริ่มทำหมี่กรอบรสดั้งเดิม และเพิ่มหมี่กรอบสมุนไพรในเวลาต่อมา แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนัก จนเมื่อขายไปเรื่อย ๆ ก็มีลูกค้าแนะนำให้ทำรสผลไม้ดู จึงเริ่มทดลองที่สับปะรด ต่อมาเป็นชาเขียว สตรอเบอรี่ ตามด้วยลิ้นจี่ และเสาวรส ซึ่งเป็นรสชาติที่ขายในปัจจุบัน และตอนนี้ก็มีความพยายามจะทดลองทำรสมะม่วง และบลูเบอรี่ด้วย อุปกรณ์ที่ใช้ทำ หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส กระทะ หม้ออะลูมิเนียม ถังน้ำสเตนเลส รวมไปถึงเครื่องครัวอื่น ๆ วิธีทำ เริ่มที่ตั้งกระทะใหญ่ เทน้ำมันลงไป กะดูให้ท่วมหมี่ที่จะทอด รอจนน้ำมันเดือด ค่อย ๆ นำเส้นหมี่อบแห้งลงทอดให้สุก ซึ่งคุณไก่บอกว่าจะทอดเส้นหมี่คราวละ 10 กก. เส้นหมี่อบแห้งที่ทอดสุกแล้วจะฟูขึ้น ได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 เท่าตัว เสร็จแล้วก็นำไปผึ่งให้แห้งและเก็บใส่ถุงพลาสติกไว้ ต่อไปก็ทำ “น้ำหมี่กรอบ” คุณไก่บอกว่า จะเคี่ยวไว้ให้เหนียวประมาณ 20% โดยส่วนประกอบหลักของน้ำหมี่กรอบก็มี น้ำมะขามเปียก 1 กก. (เนื้อและน้ำ), น้ำตาลปี๊บ 6 กก. และน้ำตาลทราย 3 กก. วิธีเคี่ยวน้ำหมี่กรอบ นั้น จะเคี่ยวน้ำตาลทรายกับน้ำเปล่า 1 ลิตร ให้น้ำตาลทรายละลายก่อน รอให้น้ำตาลทรายละลายแล้วจึงค่อยใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป เคี่ยวให้เข้ากัน ก็พร้อมจะใช้ทำน้ำหมี่กรอบรสต่าง ๆ เรื่องรสชาติต่าง ๆ ของหมี่กรอบนั้น ถ้าเป็น รสดั้งเดิม จะใส่หอมแดงเจียวลงไป 5 กก. ใส่สีผสมอาหารสีส้มลงไปพอประมาณ หากเป็น รสสตรอเบอรี่ ใส่ผลสตรอเบอรี่สด 4 กก. ผ่าครึ่งแล้วใส่ลงไป ใส่สีผสมอาหารสีแดง และใส่กลิ่นสตรอเบอรี่ลงไปพอประมาณ เช่นเดียวกับ รสชาเขียว ใช้ใบชาเขียว 500 กรัม ปั่นละเอียดแล้วใส่ลงไป ตามด้วยสีผสมอาหารสีเขียว สำหรับ รสสับปะรด ใช้เนื้อสับปะรด 10 ลูก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปเคี่ยว ตามด้วยสีผสมอาหารสีเหลือง และใส่กลิ่นสับปะรดลงไปพอประมาณ ส่วน รสลิ้นจี่ ใช้เนื้อลิ้นจี่หั่นชิ้นเล็ก ๆ 4 กก. ใส่สีผสมอาหารสีชมพูอ่อน ๆ เช่นเดียวกับ รสเสาวรส ใช้เนื้อเสาวรสหั่นชิ้นเล็ก ๆ 4 กก. ใส่สีผสมอาหารให้ออกสีเหลืองส้ม การทำ เริ่มจากตั้งกระทะ ใช้ไฟแรงพอประมาณ ตักน้ำหมี่กรอบที่เตรียมไว้ใส่ลงไปประมาณ 1 ลิตร รอให้น้ำหมี่กรอบเดือด จากนั้นเทเส้นหมี่กรอบลงไปพอประมาณ แล้วรีบคลุกด้วยตะหลิวคู่ให้เข้ากัน เท่านี้ก็เรียบร้อย นำไปพักให้เย็น เมื่อหมี่กรอบเย็นแล้วก็ค่อย ๆ บรรจุลงในกล่องพลาสติกขนาด 4.5 x 6 x 2 นิ้ว โดยที่หมี่กรอบ 1 กล่อง อาจจะบรรจุ 2 รส หรือรสเดียวก็ได้ ราคาขายคือกล่องละ 35 บาท ถ้าซื้อ 3 กล่อง ขายราคา 100 บาท โดยมีต้นทุนต่อกล่องอยู่ที่ประมาณ 70% ของราคาขาย คุณไก่บอกว่า แม้ว่าต้นทุนจะค่อนข้างสูงหน่อย แต่ก็พออยู่ได้ จึงทำขายเป็น “ช่องทางทำกิน” มาจนถึงปัจจุบัน สนใจ “หมี่กรอบผลไม้” ของ คุณไก่-อุมารินทร์ นาคบรรพตกุล ก็ไปพบกับเธอได้ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และตลาดน้ำคลองลัดมะยม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-16.00 น. หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1206-5932. ที่มา http://www.dailynews.co.th/article/384/208649

No comments: