Friday, December 7, 2012

แนะนำอาชีพ “ตุ๊กตาอัดเสียง”

อาชีพงานประดิษฐ์ประเภทของขวัญ-ของที่ระลึก นอกจากขายฝีมือการประดิษฐ์ชิ้นงานแล้ว บางชนิดก็พลิกแพลงเป็นงานบริการได้อีกทางหนึ่งด้วย ยิ่งถ้าเสริมในเรื่องของกระจุกกระจิกหรือของประดับตกแต่งเข้าไป ก็ยิ่งเพิ่มจุดขายและจุดเด่นให้งานบริการได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น “ตุ๊กตาอัดเสียง” ที่ทาง “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้...
“หทัยชนก สมมิตร” เล่าว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ต่อมาอยากหาอาชีพเสริมทำเพื่อเสริมรายได้ และด้วยความที่เป็นคนมีนิสัยชอบความโรแมนติก เวลาที่ต้องมอบของขวัญให้คนที่รู้ใจหรือคนรู้จักที่สนิทก็มักจะมองหาของขวัญ ที่มีลักษณะพิเศษอยู่เสมอ จึงเกิดความคิดว่า ถ้ามองถึงของขวัญที่สามารถแทนใจแทนความรู้สึกของผู้ให้ ที่จะทำให้คนรับนึกถึงคนให้ได้เสมอ ของขวัญต้องมีจุดเด่นที่พิเศษไม่เหมือนใคร จึงหันมาสนใจธุรกิจ “ตุ๊กตาอัดเสียง” นี้

“ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าต้องเลือกของขวัญสักชิ้นให้คนพิเศษ จะเลือกซื้ออะไร เราก็เลยมองไปที่ตุ๊กตาเพราะเราชอบงานตุ๊กตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คำถามต่อมาคือ ตุ๊กตาอะไรที่สามารถมอบได้กับคนทุกเพศทุกวัย เราก็มองไปที่ตุ๊กตาหมี ก็เลยเกิดเป็นธุรกิจเล็ก ๆ นี้ขึ้นในชื่อ “I’m a Bear” หทัยชนกกล่าว ก่อนเล่าต่อไปว่า เมื่อได้คำตอบว่าน่าจะเป็นตุ๊กตาหมี จึงคิดว่าน่าจะเพิ่มลูกเล่นให้สินค้าน่าสนใจขึ้น และมองว่าลูกค้าบางคนอาจอยากฝากข้อความพิเศษหรือบันทึกเสียงคำอวยพรเพื่อบอก ความในใจและความรู้สึก เพราะหลายคนเขินอายไม่กล้าพูด ทำให้คิดว่าบริการตัวนี้น่าจะช่วยเหลือลูกค้าตรงจุดนี้ได้ โดยตุ๊กตาที่ให้บริการอยู่นั้น สามารถอัดหรือลบเสียงได้ตลอดเวลา

ปัจจุบันสินค้ายังไม่มีหน้าร้านจำหน่าย แต่อาศัยจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก www.facebook.com/IamAbear2012 ซึ่งเปิดมาได้ 6 เดือนแล้ว ผลตอบรับก็ค่อนข้างน่าพอใจ โดยลูกค้ามีทั้งนักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงวัยทำงาน ซึ่งข้อดีของการจำหน่ายผ่านช่องทางนี้คือ ต้นทุนต่ำ สื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนมีผู้ใช้เพิ่มขึ้น ทำให้ช่องทางนี้เป็นที่สนใจ เพราะกำลังเติบโตและได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสะดวก ตอบสนองต่อวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

“นอกเหนือไปจากการที่อัดเสียงได้ เราเสริมในเรื่องชุดเสื้อผ้าและของประดับเพิ่มเข้าไป โดยเฉพาะช่วงเทศกาล หรือโอกาสพิเศษ เช่น รับปริญญา จบการศึกษา หรือรับทำของที่ระลึกประจำรุ่นที่จบ ซึ่งระบุได้ว่าอยากจะปักชื่อหรือข้อความอะไร นอกจากนี้ยังรับสั่งทำรูปอื่น ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการด้วย” หทัยชนกกล่าว

ทุนเบื้องต้นอาชีพ ใช้ประมาณ 20,000 บาท เป็นค่าตุ๊กตาหมีและเครื่องบันทึกหรืออัดเสียง ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 65% จากราคาขาย ซึ่งมีตั้งแต่ 350 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท ขึ้นกับขนาดตุ๊กตา โดยสินค้ามี 4 แบบคือ 1.แบบของทางร้าน 2.ชุดรับปริญญา 3.ชุดนักเรียน 4.แบบที่สั่งทำเฉพาะ ส่วนขนาดมี 3 ขนาดคือ ใหญ่, กลาง, เล็ก  ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำมีไม่มาก อาทิ ตุ๊กตาหมี, ชุดตุ๊กตาหมี, เครื่องอัดเสียง และอุปกรณ์สำหรับเย็บผ้า เช่น เข็ม, ด้าย, กรรไกร
 
“ปกติเราจะเตรียมเงินหมุนเวียนในการสต๊อกสินค้าอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน เพราะการสต๊อกสินค้าจะทำให้เราสามารถควบคุมเรื่องราคาต้นทุนได้ และทำให้เราสามารถเช็กยอดสินค้าคงคลังของเราได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียคือ หากสต๊อกสินค้าไว้ไม่เหมาะสมก็อาจจะมีปัญหาเรื่องต้นทุนที่จมลงไปกับสินค้า หรือหากสั่งน้อยไปจนสินค้าไม่พอกับความต้องการก็อาจทำให้เราเสียโอกาสในการ ขายสินค้าได้” หทัยชนกแนะนำ

การทำ “ตุ๊กตาอัดเสียง” เนื่องจากนี่เป็นธุรกิจบริการประเภทที่นำสินค้ามาผสมผสาน ขั้นตอนจึงไม่มีอะไรมาก

จะมีในส่วนที่ต้องทำที่เป็นจุดขายก็คือ การบันทึกหรืออัดเสียงพูด ซึ่งมีขั้นตอนคือ ลูกค้ากดปุ่มตัวอาร์ตรงแขนด้านซ้ายของตุ๊กตาค้างไว้ จนได้ยินเสียงสัญญาณดัง จึงทำการพูดเพื่อบันทึกเสียงลงไป เมื่อพูดจบให้ปล่อยมือจากปุ่ม จะได้ยินเสียงสัญญาณดังสองครั้งจึงจะถือว่าการอัดเสียงเสร็จสมบูรณ์ หากต้องการฟังก็ให้กดตรงแขนด้านขวา

ส่วนการลบเสียง ให้กดที่แขนด้านซ้ายของตุ๊กตาโดยไม่ต้องกดค้างไว้ จะได้ยินเสียงสัญญาณดังสองครั้ง ถือว่าลบเสียงออกได้สมบูรณ์ หากไม่แน่ใจก็กดที่แขนขวาเพื่อลองฟังดูก่อนอัดเสียงใหม่ได้ ซึ่งเหล่านี้ลูกค้าสามารถทำได้ด้วยตัวเองตามคำแนะนำในการใช้งาน โดยสามารถดูได้ที่เฟซบุ๊กของทางร้าน
ใครสนใจติดต่อหทัยชนก ติดต่อได้ที่ โทร. 08-8884-0409 หรืออีเมลiam_a_bear@hotmail.com ส่วนตัวสินค้าก็เข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของทางร้าน ซึ่ง “ตุ๊กตาอัดเสียง” นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่ผสมผสานรูปแบบการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่น่าสนใจ และยังใช้ช่องทางจำหน่ายสินค้าที่น่าสนใจ ในโลกยุคออนไลน์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน.

http://www.dailynews.co.th/article/384/171151

No comments: