การช่วยส่งเสริม-พัฒนาเอสเอ็มอี และโอทอป โดยกระทรวงอุตสาหกรรม
โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
โดยสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ยังคงเดินหน้าอยู่ตลอด
ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ทีม “ช่องทางทำกิน”
ได้ไปพบเจอผลิตภัณฑ์ของผู้ที่ได้เข้าร่วมโครงการสร้างตราสินค้าใหม่ให้แก่
ผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นตัวขับเคลื่อน
กับแบรนด์ “โฟลี่ บาย บุญยรัตน์” ซึ่งมี “เคสสมาร์ทโฟนจากย่านลิเภา”
เป็นผลิตภัณฑ์เด่น จึงนำมาเล่าสู่กัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา...
ผลิตภัณฑ์นี้นำเสนอแนวคิดด้าน Creative Mobile Life
นำย่านลิเภามาผสานกับชีวิตสมัยใหม่ยุคไอที โดย เจษฎา หงสุชน
กรรมการผู้จัดการ หจก.บุญยรัตน์ไทยคร๊าฟท์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า
บุญยรัตน์ไทยคร๊าฟท์ทำกระเป๋าย่านลิเภาและเครื่องถมมาตั้งแต่รุ่นคุณย่าคุณ
ยาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช
ช่วงสองสามปีก่อนมีความคิดขยายกลุ่มลูกค้า
โดยตั้งเป้าลดอายุกลุ่มเป้าหมายให้เหลือประมาณ 20 ปีขึ้นไป
ซึ่งด้วยทักษะที่ประณีตและดีไซน์ลวดลายที่สวยงาม
ทำให้ผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาครองใจผู้ใช้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกระแสโลก
“เราต้องการให้งานจักสานย่านลิเภาสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้
โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนรากเหง้าทั้งหมด
แต่ผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านจากงานจักสานและย่านลิเภาที่เป็นไม้
ประจำถิ่น กับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน อย่างกลมกลืน เพื่อให้ โฟลี่ บาย บุญยรัตน์
เป็นแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่รับรู้และนึกถึงเมื่อต้องการสิ่งที่แตกต่าง
แล้วไอเดียก็เป็นจริงเมื่อมีโครงการ นครศรีดี๊ ดี ด้วยคอนเซปต์ นครร่วมสมัย
ซึ่งก็ตรงกับบุญยรัตน์ ที่ต้องการจะปรับตัวให้ร่วมสมัยเช่นกัน
ก่อนที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด
ที่แนะให้ใช้ย่านลิเภาทำเคสไอโฟน
ผมจึงร่วมกับกลุ่มสตรีแม่บ้านสหกรณ์การเกษตรท่าเรือ จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งมีฝีมือประณีตในการจักสาน มาดำเนินการตามที่ตั้งใจ”
อุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานย่านลิเภาเป็น “เคส”
นั้น หลัก ๆ ก็มี ตัวเคส, มีด (ใช้สำหรับขูดเส้นลิเภาให้ได้ตามต้องการ),
เหล็กแหลม (ใช้เจาะรูที่โครงเพื่อเสียบไม้ไผ่และช่วยในการจัดลาย),
แผ่นโลหะเจาะรู
(ใช้ขูดเกลาให้ย่านลิเภาและไม้ไผ่ที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์มีขนาดเท่ากัน),
ปลอกนิ้ว (ทำจากผ้าหนา ๆ ใช้สวมนิ้วเวลาขูดย่านลิเภา จะได้ไม่เจ็บ),
กาวลาเท็กซ์ (ใช้ทาเส้นลิเภาให้ยึดติดกับโครงแบบที่จะทำ
หรือใช้ยึดส่วนประกอบของกระเป๋า) และวัสดุหลักที่ใช้ในการทำคือ ย่านลิเภา
ซึ่งย่านลิเภามี 2 ชนิดคือ ย่านลิเภาสีดำ และย่านลิเภาสีน้ำตาล
ขั้นตอนและวิธีการทำ “เคส” เช่น เคสไอโฟน เคสไอแพด จากย่านลิเภา
เริ่มจากนำย่านลิเภาใหญ่ไปลอกหรือปอกเปลือก
แล้วนำเปลือกที่ลอกได้ไปแขวนตากลมในที่ร่มแห้ง
จากนั้นก็นำมาฉีกเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการจะใช้งาน แล้วตั้งพักไว้ก่อน
นำกระป๋องนมมาเจาะรู 5 รู เรียงลำดับจากช่องใหญ่ไปหาเล็กที่สุด
จากนั้นเอาย่านลิเภาที่เป็นเส้นฝอยมารูดทีละช่องจนถึงช่องเล็กที่สุด
โดยดึงผ่านจากโคนถึงปลาย ก็จะทำให้ขนาดของย่านลิเภาเรียบและมีขนาดเท่ากัน
ขั้นตอนนี้เรียกว่าการชักเลียด (ในการทำควรจะทำครั้งละมาก ๆ
เพื่อสะดวกในการนำไปใช้
ส่วนย่านลิเภาที่ยังไม่ได้ใช้ก็ให้นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อเก็บความชื้นไว้
เพื่อจะง่ายต่อการสาน เพราะถ้าเส้นลิเภาแห้งแล้วจะสานยาก)
การสาน นำเส้นลิเภาที่ขูดจนเส้นเป็นมันและเหนียวแล้ว
มาสานแบบขัดเป็นลวดลายต่าง ๆ บนแป้นที่เตรียมไว้ เช่น ลายไทย
ลายไทยประยุกต์, ลายดอกสี่เหลี่ยม, ลายสอง, ลายตาสับปะรด, ลายลูกแก้ว
และลายอิสระที่ไม่มีแบบตายตัว
ขึ้นอยู่กับผู้สานจะคิดและประดิษฐ์เองให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
โดยสีของลวดลายส่วนใหญ่มี 4 สี คือ สีเนื้อ สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแก่
และสีดำ ลักษณะงานจักสานวิธีนี้จะเป็นรูปทึบ
จากนั้นก็นำไปประกอบเข้ารูปกับเคสไอแพด หรือไอโฟน หรืออื่น ๆ ที่เตรียมไว้
เพียงเท่านี้ก็จะได้ เคสลายไทยประยุกต์ ที่สวยงาม
เจษฎาบอกอีกว่า โฟลี่ บาย บุญยรัตน์ นำย่านลิเภามาทำเป็นเคส
โดยช่างฝีมือด้านการสานย่านลิเภาทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ที่ทางหน่วยงานส่ง
เสริม-พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมส่งมาเป็นที่ปรึกษา
โดยลายสินค้าจะใช้ลายดั้งเดิม ทีมดีไซเนอร์จะเสริมในเรื่องรูปแบบ การวางลาย
และองค์ประกอบทางด้านศิลปะ ซึ่งตัวงานก็ยังคงเน้นที่การทำมือ
ไม่ใช้เครื่องจักรเลย ซึ่งนี่เป็นจุดขายอย่างหนึ่ง
ใครสนใจ “เคสจากย่านลิเภา” ต้องการติดต่อเจษฎา ติดต่อได้ที่
โทร.08-9474-3918, 08-9474-2053 และ 0-7535-6196 ทั้งนี้
งานจักสานเป็นมรดกที่สั่งสมและถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษไทยรุ่นแล้วรุ่นเล่า
คือภูมิปัญญาไทยอันล้ำค่าที่ควรช่วยกันสืบทอด
สร้างเป็นงานหัตถศิลป์ระดับชาติ และก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน”
ให้คนไทยสืบไป.
เชาวลี ชุมขำ
...............................................
คู่มือลงทุน...เคสย่านลิเภา
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัสดุ ประมาณ 50% ของราคา
รายได้ ราคา 850 บาทขึ้นไป / เคส
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด แหล่งท่องเที่ยว, ผลิตขายส่ง
จุดน่าสนใจ ภูมิปัญญาไทยทำเงินอินเทรนด์
http://www.dailynews.co.th/article/384/171340
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment