ปัจจุบันธุรกิจ ’ร้านค้าออนไลน์“ อีคอมเมิร์ซโซไซตี้
การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ มีคนทำมากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะสามารถทำตลาดกว้างทั้งในและต่างประเทศ โดยจะมีหรือไม่มีหน้าร้านก็ได้
และยิ่งเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้นก็ยิ่งสร้างโอกาสในการทำธุรกิจ
แบบออนไลน์ได้ง่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะทำให้ประสบความสำเร็จ
ก็จำเป็นต้องมีการดำเนินการที่ดี และที่สำคัญคือ “สินค้า”
ที่โดดเด่นน่าสนใจก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยวันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“
มีข้อมูลกรณีศึกษามานำเสนอ ซึ่งน่าสนใจ ทั้งการดำเนินการ
ทั้งคนที่ทำ-ที่คิดจะทำ และลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ’เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์“
“เจมส์-อภิณุ วิริยกอบกุล” เป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกทำ
“ธุรกิจการค้าออนไลน์” โดยเลือก “เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์” เป็นสินค้าหลัก
เปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสตรีไซซ์ใหญ่ในอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์
www.fattyshop.com โดยใช้ชื่อร้าน-ชื่อแบรนด์ว่า ’แฟตตี้ช็อป (fattyshop)“
ซึ่งเขาเล่าว่า หลังเรียนจบทางด้านวิศวกรรมก็ออกมาทำงานตรงตามสายที่เรียน
และต่อมาก็สนใจทำธุรกิจค้าขายออนไลน์
ซึ่งมีจุดเริ่มจากการที่เป็นลูกค้าธุรกิจรูปแบบนี้มาก่อน
คือเป็นคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว
เพราะของที่ต้องการจะซื้อนั้นหาง่าย
และจะถูกกว่าของที่วางขายตามหน้าร้านทั่วไปด้วย
“แรก ๆ ก็ยังไม่กล้าสั่งซื้อของบนอินเทอร์เน็ต เพราะยังกลัวว่าจะถูกโกง
ก็เริ่มจากซื้อของที่มีราคาไม่แพงก่อน
และเลือกซื้อบนเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ โดยการดูจากหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ
ว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ และดูจากกระทู้โต้ตอบบนเว็บไซต์นั้น ๆ
ว่ามีกระทู้ที่ลูกค้าเข้ามาโพสต์ในเรื่องการซื้อขายอย่างไรบ้าง” เจมส์เล่า
ก่อนจะบอกต่อไปว่า หลังจากที่เริ่มซื้อสินค้า ซื้อของต่าง ๆ
ผ่านอินเทอร์เน็ตมาเรื่อย ๆ ต่อมาก็เริ่มมองว่าการค้าขาย
การขายของบนอินเทอร์เน็ตนั้น เป็นช่องทางขายของที่ดี
เพราะซื้อง่ายขายคล่องมาก
คิดได้ดังนั้นก็เลยลองนำของที่มีอยู่มาลงขายบนอินเทอร์เน็ตดูบ้าง
ซึ่งปรากฏว่าขายได้
จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำการค้าบนอินเทอร์เน็ตเรื่อยมาจนปัจจุบัน
หลังจากที่เอาของมือสองของตนเองและคนใกล้ตัวมาลงขายเรื่อย ๆ
พอถึงจุดหนึ่งก็เริ่มไม่มีของที่จะมาลงขาย เจมส์จึงเริ่มมองหาสินค้าอื่น ๆ
มาขาย ก็มองที่เสื้อผ้า ซึ่งช่วงแรก ๆ ไปรับเสื้อผ้าทั่วไปไซซ์ปกติมาลงขาย
ก็พอไปได้ จนระยะหนึ่งก็เห็นว่าธุรกิจที่ทำอยู่ยังมีจุดอ่อนที่ตัวสินค้า
เพราะสินค้าเสื้อผ้าไซซ์ปกตินั้นมีคู่แข่งทางการค้าเยอะ และหลายช่องทาง
ทำให้มีการตัดราคากัน ทำให้ขายได้กำไรในระดับที่ไม่เหมาะสมต่อการทำธุรกิจ
จึงเริ่มมองหาสินค้าตัวอื่นมาขาย
เมื่อมองเห็นว่าเสื้อผ้าไซซ์ปกติมีอยู่มากในตลาด ก็เลยลองไปมองตลาด
’เสื้อผ้าไซซ์ใหญ่“
ซึ่งจากการลองสำรวจตลาดก็เห็นว่าร้านเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่นั้นมีอยู่น้อย
ก็เริ่มเห็นช่องทางใหม่
และเริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่ามีคนที่มีร่างกายแบบ ’บิ๊กไซซ์’
อยู่เยอะ แต่คนกลุ่มนี้มีช่องทางการซื้อเสื้อผ้าน้อย
และไม่ค่อยมีเสื้อผ้าที่เป็น ’แฟชั่น“ มาก
ร้านขายเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่มีน้อย
และคนไซซ์ใหญ่มักจะไม่ชอบเดินซื้อเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
จึงเริ่มต้นนำเสื้อผ้าผู้หญิงไซซ์ใหญ่มาลงขายบนอินเทอร์เน็ต
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทำมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้ทำมาได้ 5
ปีแล้ว
โดยเริ่มต้นแหล่งที่นำสินค้ามาจำหน่ายก็เป็นแหล่งเดียวกับเสื้อผ้าไซซ์ปกติ
เช่น โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ
แต่สิ่งที่จะเน้นมากคือเสื้อผ้าที่จะนำมาจำหน่ายนั้นจะต้องดูในเรื่อง
คุณภาพการตัดเย็บดี คุณภาพผ้าดี และรูปแบบเสื้อผ้าก็จะต้องดูดี ด้วยเช่นกัน
’เราขายเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่บนอินเทอร์เน็ตอยู่ได้ระยะหนึ่งก็เริ่มมีคู่แข่งมาก
ขึ้น ทำให้มีปัญหาตามมาในเรื่องของสินค้าที่มักจะไม่แตกต่าง
เราจึงมาคิดเพิ่มเติมเพื่อให้สินค้าของเราแตกต่างไปจากรายอื่น
เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นในแบบฉบับของเราเอง เราจึงออกแบบและผลิตเอง
ซึ่งแบบเสื้อผ้าที่ลงขายก็จะต้องมีหลากหลาย
และของเราก็จะมีการเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามยุคสมัยนิยม ตามแฟชั่น
ซึ่งรวมแล้วตอนนี้เรามีอยู่กว่า 7,000 แบบ“
เจ้าของธุรกิจการค้าออนไลน์ “เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์” แบรนด์ “แฟตตี้ช็อป
(fattyshop)” บอกอีกว่า
คนที่จะทำธุรกิจขายสินค้าบนอินเทอร์เน็ตนั้นต้องเป็นคนที่ชอบและตั้งใจที่จะ
ทำจริง ๆ
ซึ่งสำหรับเขาเองนั้นการทำการค้าแบบนี้ก็จะคอยเฝ้าเช็กหน้าเว็บไซต์อยู่ตลอด
และสินค้าที่นำมาลงขายก็จะหาสินค้าที่ดูแตกต่างไปจากรายอื่น ๆ อยู่เสมอ
ในส่วนของมือใหม่ที่สนใจจะทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต
แรกเริ่มก็อาจจะลองเริ่มลงขายบนเว็บที่ฝากขายของไปก่อน
เมื่อเริ่มมีลูกค้าและมีความพร้อมที่จะทำมากขึ้นแล้วจึงค่อยขยับขยาย
ซึ่งการค้าขายบนอินเทอร์เน็ตนั้นแนะนำว่าการเช่าพื้นที่ขายบนเว็บไซต์สำเร็จ
รูปจะดีกว่ามาเขียนเว็บของตัวเอง
ดีกว่าตรงที่ถ้าเป็นเว็บสำเร็จรูปเราไม่ต้องไปกังวลเรื่องระบบการทำงานของ
เว็บ เราก็แค่เข้าไปดู คอยเช็กและอัพเดทสินค้าของเราเท่านั้น
ซึ่งค่าเช่าเว็บสำเร็จรูปเพื่อเปิดหน้าร้านขายสินค้าบนอินเทอร์เน็ต ประมาณ
12,000 บาทต่อเดือน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละเว็บไซต์ว่าจะมีอัตราเท่าใด
และจุดหนึ่งที่สำคัญมากในการทำธุรกิจแบบนี้คือ
ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
มีการเสียภาษีถูกต้อง ซึ่งก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ด้วย
เพราะร้านมีตัวตนจริง ตรวจสอบได้
’การขายเสื้อผ้าผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น เราจะบอกไซซ์ และวิธีดูไซซ์
ให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน เมื่อลูกค้าสั่งซื้อไปแล้วต้องใส่ได้ไม่มีปัญหา
สำหรับเสื้อไซซ์ใหญ่ของ fattyshop มีไซซ์ตั้งแต่ขนาดรอบอก 36 นิ้ว จนถึง 60
นิ้ว ราคามีตั้งแต่ประมาณ 300 บาท ไปจนถึงประมาณ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบบ
นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นไซซ์ใหญ่อีก เช่น กระโปรง ชุดชั้นใน
ชุดว่ายน้ำ ถุงน่อง เครื่องประดับต่าง ๆ“ เจมส์กล่าว
ใครสนใจ “เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์” คลิกเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ www.fattyshop.com
หรือโทรฯสอบถามได้ที่ โทร. 0-2152-0867-8 และแบรนด์ ’แฟตตี้ช็อป
(fattyshop)“ ของเจมส์-อภิณุ ยังมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดบองมาร์เช่
(เบอร์ร้าน โทร.08-9440-2930) และที่เชียงใหม่ (เบอร์ร้าน โทร.
08-9104-9030) ด้วย ซึ่งก็เสริม “ช่องทางการเข้าถึงของลูกค้า”
’เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์“...นี่น่าสนใจมากทีเดียว!!.
http://www.dailynews.co.th/article/384/121000
Friday, June 22, 2012
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment