Friday, May 11, 2012

แนะนำอาชีพ “ที่คล้องประตู”

อาชีพทำกินหลาย ๆ อาชีพ นอกจากจะต้องมีฝีมือแล้ว ในเรื่องการมองหาโอกาส การมองหาตลาด ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้ เพราะยิ่งจับจุดความต้องการของลูกค้าได้เร็วได้มากแค่ไหน โอกาสที่สินค้าจะกลายเป็นที่สนใจก็มีมากขึ้น แม้แต่งานที่ดูง่าย ๆ แต่เมื่อนำมาเติมแต่งด้วยไอเดียเก๋ ๆ กวน ๆ ก็สามารถที่จะทำเป็นอาชีพได้อย่างดี อย่างเช่นงานประดิษฐ์ ’ที่คล้องประตู“ ที่วันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน...
                   
“จารุวรรณ อินจันทร์” และ “ศักดิ์นรินทร์ เรืองโรจน์วรไชย” ประดิษฐ์ “ที่คล้องประตู” จำหน่าย โดยจารุวรรณเล่าว่า ตนเองและศักดิ์นรินทร์มีอาชีพหลักอยู่แล้วคือเป็นพนักงานคอมพิวเตอร์กราฟิก ทำให้มีโอกาสได้พบเห็นงานออกแบบ งานกราฟิก งานไอเดียแปลกใหม่อยู่เสมอ ประกอบกับมีรูปภาพประกอบหรืองานที่ออกแบบทิ้งไว้อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งลายเส้น ลายการ์ตูน รวมถึงการออกแบบตัวหนังสือต่าง ๆ จึงคิดว่าถ้าสามารถนำวัตถุดิบที่มีอยู่เดิมมาพัฒนาต่อยอดออกมาให้เป็นสินค้า ก็น่าจะสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ แต่ตอนแรกก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะผลิตสินค้าประเภทใด

ดังนั้น จึงลอง สำรวจตลาด ก็พบว่ามีสินค้าอยู่ประเภทหนึ่งที่ในตลาดยังมีคนทำไม่มาก อีกทั้งรูปแบบของสินค้าเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วนั้นก็มักจะเป็นรูปแบบธรรมดา เพราะเน้นใช้งานเป็นหลัก นั่นก็คือ “ที่คล้องประตู” จึงคิดว่าหากนำงานออกแบบมาผสมผสานเข้ากับสินค้าประเภทนี้ ก็น่าจะสร้างจุดขายและสร้างความน่าสนใจให้สินค้าได้เพิ่มขึ้น จึงทดลองออกแบบและเริ่มทดลองทำออกจำหน่าย โดยในระยะแรก ๆ นั้นผลิตและจำหน่ายทางเว็บไซต์เป็นหลัก คือhttp://jikong.bigshopping.com ต่อมาก็เปิดหน้าร้านขายที่ตลาดนัดรถไฟในวันหยุด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

“ปกติที่เคยเห็นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่คำภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ และมักจะมีรูปแบบเดิม ๆ เราสองคนจึงคิดว่าถ้าใส่ลูกเล่นเข้าไปก็น่าจะสร้างจุดสนใจให้กับสินค้าได้ ประกอบกับมีลายและภาพที่เก็บไว้อยู่แล้ว จึงนำมาออกแบบและผลิตขึ้น ซึ่งพอทำออกมาขายก็ปรากฏว่าลูกค้าชอบ ปัจจุบันก็มีทั้งลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ กับลูกค้าที่มาจ้างให้ออกแบบทำเพื่อนำไปใช้เป็นของที่ระลึก” จารุวรรณกล่าว

ด้านศักดิ์นรินทร์เสริมว่า แรก ๆ มักถูกลูกค้าถามตลอดว่าเป็นสินค้าอะไร ใช้ทำอะไร แต่หลังจากสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขึ้น ก็ปรากฏว่ามีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ มีทั้งเพื่อนำไปเก็บเป็นของสะสม หรือไม่ก็มาซื้อเป็นจำนวนหลายชิ้นเพื่อนำไปมอบเป็นของที่ระลึก ทั้งยังมีลูกค้าที่มาสั่งเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปใช้คล้องประตูจริง ๆ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกค้าที่มีธุรกิจอพาร์ตเมนต์, รีสอร์ท และโรงแรมขนาดกลาง-ขนาดเล็ก นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าที่มาสั่งทำพิเศษเพื่อนำไปใช้แทนของชำร่วย หรือใช้แทนการ์ดในงานแต่งและงานเลี้ยง ก็ทำให้สามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี

สำหรับที่คล้องประตูที่ผลิตอยู่ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 14 แบบหรือชุด โดยแต่ละชุดก็จะมีลายแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะคงไว้ที่ขนาดสินค้าขนาดเดียว ข้อดีของการมีสินค้าหลากหลายแบบก็คือช่วยทำให้หน้าร้านดูหลากหลายน่าสนใจ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อไปส่วนใหญ่แต่ละครั้งที่ซื้อก็จะซื้อกันไปคนละหลายแบบ โดยแบบที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นลายการ์ตูน กับลายที่เป็นประโยคหรือวลีที่กำลังเป็นหัวข้อที่ผู้คนสนใจอยู่ในขณะนั้น

“แรก ๆ จะเป็นรูปภาพน่ารัก ลายการ์ตูน ต่อมาเราคิดว่าคำกวน ๆคำพูดติดปากที่กำลังฮิต ก็สามารถนำมาใช้ผลิตเพื่อทำเป็นสินค้าได้ เช่น เอาอยู่ ห้ามยืมตังค์ เป็นต้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน” ศักดิ์นรินทร์กล่าว

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ไม่รวมค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการออกแบบ จะใช้ประมาณ 1,000 บาท โดยวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นมีเพียงสติกเกอร์, กระดาษแข็ง, กรรไกร, คัตเตอร์ ส่วนทุนในการทำแต่ละชุดอยู่ที่ประมาณ 60% จากราคาขาย ซึ่งราคาขายชิ้นงานขนาดมาตรฐานคือชิ้นละ 29 บาท

ขั้นตอนการทำ เนื่องจากเป็นงานที่ใช้การออกแบบเป็นหลัก ขั้นตอนการทำหลัก ๆ จึงอยู่ที่เรื่องของการออกแบบ-คิดรูปแบบให้กับสินค้า ซึ่งคนที่สนใจจะทำงานด้านนี้ก็จะต้องมีความรู้หรือมีความชำนาญในเรื่องของ โปรแกรมการออกแบบงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ติดตัวอยู่บ้าง หลังจากออกแบบเสร็จแล้ว ก็ส่งไฟล์งานสำเร็จรูปให้กับโรงพิมพ์เพื่อพิมพ์ผลงานออกมาเป็นสติกเกอร์ จากนั้นก็นำมาติดลงบนกระดาษแข็งเพื่อให้เป็นทรงของที่คล้องประตู แล้วจึงนำมาตัดด้วยกรรไกรออกเป็นแผ่น ๆ พร้อมขาย ซึ่งขั้นตอนการทำหลัก ๆ มีเพียงเท่านี้ ที่เป็นจุดขายจริง ๆ คือไอเดีย
  
“จุดสำคัญที่สุดอยู่ที่จุดเริ่มต้น คือการคิดแบบ และออกแบบที่คล้องประตูให้ดูน่าสนใจ” จารุวรรณกล่าว

ใครสนใจชิ้นงาน “ที่คล้องประตู” รูปแบบนี้ ต้องการติดต่อผู้ที่ทำ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-5260-3900 หรือที่อีเมล
roungrot@hotmail.com และ mild.mapundung@gmail.com ซึ่งนี่ก็เป็นอีกตัวอย่าง ’ช่องทางทำกิน“ เป็นงานไอเดียที่คิดและผลิตขึ้นจากการมองเห็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ เป็นงานที่ทำไม่ยาก ขายง่าย สร้างรายได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย.

http://www.dailynews.co.th/article/384/113945

No comments: