Sunday, May 22, 2011

แนะนำอาชีพ 'ข้าวห่อใบบัว'

สมัยนี้หากจะหาอาหารโบราณรสชาติอร่อยถูกปากอาจจะหายากอยู่สักหน่อย เพราะอาหารโบราณแต่ละอย่างล้วนค่อนข้างมีขั้นตอนยุ่งยากในการทำและต้องพิถี พิถันในการเลือกสรรวัตถุดิบ อย่าง “ข้าวห่อใบบัว” ก็เป็นเมนูโบราณที่หารับประทานยากในยุคปัจจุบัน หากจะรับประทานต้องไปหาซื้อตามแหล่งเฉพาะ หรือตามตลาดที่มีอาหารไทยโบราณ ซึ่งที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก็มีอยู่เจ้าหนึ่ง เป็นสูตรโต๊ะจีนโบราณ และเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา

จากความคิดที่ต้องการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านอาหาร พลิกฟื้นเมนูอาหารไทย-จีน ให้คนรุ่นใหม่รู้จัก ทิพวรรณ สกุลเรืองศรี หรือ “เจ๊อ๊อด” ได้ทำ “ข้าวห่อใบบัว” สูตรโต๊ะจีน ออกขาย เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ตลาดน้ำบางคล้าเปิดแรก ๆ ก็มีการสำรวจคนที่จะไปขายของว่าใครจะขายอะไรบ้าง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมตลาดน้ำบางคล้า และเพราะเธอเป็นคนพื้นเพที่นี่ ก็คิดอยากอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ และเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก พอดีพี่ชายทำธุรกิจรับจัดโต๊ะจีน เมนูอาหารในโต๊ะก็มีข้าวห่อใบบัวเป็นนางเอกรวมอยู่จึงได้ไอเดียตรงนี้มา ประกอบการตัดสินใจ

“ตัดสินใจทำข้าวห่อใบบัวขายทันที ยังไงก็ขายได้ เพราะไม่มีร้านไหนทำขาย คู่แข่งน้อย เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ห่อด้วยใบบัวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่สำคัญไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เป็นสินค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี ลูกค้าบางคนไม่เคยรู้จักข้าวห่อใบบัวมาก่อน แต่เพราะหน้าตาที่ดูน่ารับประทาน รสชาติอร่อย จึงบอกปากต่อปากจนมีลูกค้าขาประจำจำนวนมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวที่นิยมซื้อคนละหลาย ๆ ห่อเพื่อนำไปเป็นของฝาก สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เมื่อจะรับประทานก็เอามาอุ่นในไมโครเวฟ รสชาติเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ หลัก ๆ ก็มี... เตาแก๊ส, กระทะ, ตะหลิว, กะละมังสเตนเลส หลาย ๆ ขนาด, ลังถึงนึ่ง, ถาด และเครื่องมือเครื่องไม้เบ็ดเตล็ดอย่างอื่นที่สามารถหยิบยืมได้จากในครัว

สำหรับวัตถุดิบ-ส่วนผสมในการทำข้าวห่อใบบัว ก็หาซื้อได้จากตลาดสดทั่วไป หลัก ๆ ก็มี ข้าวขาวเสาไห้, เผือกทอด, เม็ดบัวต้ม, กุ้งแห้งทอด, กุนเชียงทอด, เนื้อหมูหมัก, ไข่แดงไข่เค็ม, น้ำมันพืช, พริกไทย และน้ำซอสที่ใช้คลุกเคล้ากับข้าวสวย มีส่วนผสมของน้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และผงปรุงรส

ขั้นตอนการทำ “ข้าวห่อใบบัว” สูตรโต๊ะจีน เริ่มจากนำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ หมักกับซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรส และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็นสักครู่

ทำการหุงข้าวเตรียมไว้ นำกุนเชียงไปทอดแล้วหั่น ส่วนไข่แดงไข่เค็มนั้นผ่าเป็นสองซีก ปอกเปลือกเผือกล้างสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้น นำไปทอดแล้วพักไว้ และกุ้งแห้งนำไปทอดเตรียมไว้ เม็ดบัวก็นำไปต้มเตรียมไว้

เมื่อส่วนผสมทุกอย่างพร้อม ก็นำเอาข้าวที่หุงสุกแล้ว มาคลุกเคล้ากับน้ำซอสปรุงรสให้ทั่ว ตั้งกระทะ พอน้ำมันร้อนนำหมูหมักลงไปผัดให้หอม ตามด้วยข้าวที่เคล้าซอสใส่ลงไปผัดพร้อมกับเผือกทอด กุ้งแห้งทอด และเม็ดบัวต้ม ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยพริกไทย น้ำตาลและเกลือ เสร็จแล้วยกลง

ต่อไปเป็นขั้นตอนการห่อข้าว วางใบบัวหลวงซ้อนกันในถ้วย (ห่อละ 2 ใบ) จากนั้นเลือกตักส่วนผสมลงไปก่อน เพื่อโชว์ เช่น เนื้อหมู เผือก กุนเชียง กุ้งแห้ง และไข่แดงไข่เค็ม แล้วจึงตักข้าวผัดซอสใส่ตามลงไปปิดท้าย จากนั้นห่อใบบัวให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ห่อให้แน่น ก่อนจะนำไปนึ่งในลังถึงที่ตั้งไฟรอจนน้ำเดือด ประมาณ 20 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เวลาจะรับประทานข้าวห่อใบบัว ก็จะนำกรรไกรหรือมีดมาตัดที่ใบบัวเป็นรูปกากบาท เพื่อให้ทานง่าย

เคล็ดลับความอร่อย เจ๊อ๊อด บอกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่เมล็ดข้าวที่สุกพอดี อย่าดิบ และอย่าแข็งเกินไป และต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด พิถีพิถันทุกขั้นตอนในการทำ ใบบัวที่ใช้ห่อก็ต้องใช้ใบบัวหลวง ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

ราคาขาย “ข้าวห่อใบบัว” ห่อละ 35 บาท มีต้นทุนประมาณ 60%

“ข้าวห่อใบบัว” เจ้านี้ขายที่ตลาดน้ำบางคล้าทุกวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือถ้าเป็นวันธรรมดาก็ไปแวะเวียนเยี่ยมร้านเจ๊อ๊อดได้ที่ บ้านเลขที่ 94/103 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ต.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โทร.08-0249-8289 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกกรณีศึกษาการนำเมนูอาหารโบราณมาสร้างรายได้ กลายเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=140191

No comments: