Wednesday, January 6, 2010

แนะนำอาชึพ'กล้วยเมืองลุง'

“กล้วย” จึงจัดเป็นผลไม้ลำดับต้น ๆ ที่คนไทยรู้จักและนิยมรับประทานในทุกพื้นที่ รวมถึงมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการแปรรูปกล้วยเป็นอาหารทานเล่นประเภท “สแน็ค” ของกลุ่มแม่บ้านลำสินธุ์ มานำเสนอให้ลองพิจารณากัน...

ประทิน นาคมิตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ จ.พัทลุง เล่าว่า ชาวสวนในชุมชนนี้จะนิยมปลูกกล้วยน้ำว้าและกล้วยไข่ควบคู่กับการทำสวนยางพารา เพราะให้ผลผลิตดีและขายได้ราคา แต่เมื่อปี 2530 ราคากล้วยตกต่ำขายไม่ออก จึงมีการแปรรูปกล้วยไข่เป็นกล้วยกรอบแก้วรสต่าง ๆ และเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในท้องถิ่น ต่อมามีการขอคำแนะจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ เพื่อปรับให้การทำงานของกลุ่มเป็นระบบ จนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จนสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง และพัฒนาเรื่อยมาจนเป็น “กล้วยเมืองลุง” ในปัจจุบัน

“ทั้งอุตสาหกรรม พัฒนาชุมชน เกษตรอำเภอ อบต. เข้ามาสนับสนุนความรู้ทางวิชาการ เงินทุนจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทำให้สมาชิกมีกำลังใจในการทำงาน ขณะเดียวกันเราก็ขยันหาความรู้ เข้าอบรมสัมมนา ศึกษาดูงาน โรดโชว์กับหน่วยงานราชการ นำประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงสินค้าจนได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โอทอป 4 ดาว และได้วางจำหน่ายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาพัทลุง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้เรามีทุนในการพัฒนาสินค้าให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นอีก”

จุดเด่นของ “กล้วยเมืองลุง” คือมีหลายรสชาติให้เลือก อาทิ รสมาตรฐาน รสหวาน รสเค็ม รสบาร์บีคิว รสปาปริก้า รสสาหร่าย แต่ละรสชาติก็จะแตกต่างกันไป โดยที่การผลิตจะเน้นความสะอาด ปลอดภัย ไม่ใส่สารกันบูด และเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ ต้องเป็นกล้วยก่อนแก่เท่านั้น รสชาติจะหวานกรอบ

อุปกรณ์ในการทำก็มี... กระทะ, เตาแก๊ส, ไม้พาย, กระด้ง, กะละมังใหญ่, เครื่องหั่นกล้วย, ตะแกรง, ทัพพี, เครื่องปั่นไฟฟ้า, กระดาษซับมัน, มีด, เขียง และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ด ส่วนวัตถุดิบก็มี... กล้วยไข่ก่อนแก่, น้ำมะนาว, น้ำมันปาล์ม, น้ำตาลไอซิ่ง (มีส่วนผสมของแป้งสาลี 3 % ช่วยลดความชื้น), พริกไทยป่น, เกลือ

ขั้นตอนการทำ “กล้วยไข่เมืองลุง” (หากต้องการรสชาติแบบไหนก็เพิ่มส่วนผสมนั้น ๆ ลงไป) เริ่มจากนำกล้วยไข่สดก่อนแก่มาล้างด้วยน้ำสะอาด 2 ครั้ง จากนั้นนำไปปอกเปลือกแช่ในน้ำมะนาวอ่อน ๆ เพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกที ก่อนนำไปสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ ลงกระทะน้ำมันที่ความร้อน 160 องศา

ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที สังเกตว่ากล้วยมีสีเหลืองทองจึงตักขึ้นใส่ตะแกรงวางให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้จนเย็น ก่อนนำมาปรุงแต่งรสชาติตามต้องการ จากนั้นนำเข้าตู้อบอีก 3-10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องการเชื้อรา ก่อนแพ็กลงบรรจุภัณฑ์เตรียมจำหน่าย ซึ่งลูกค้าสามารถเก็บไว้รับประทานได้นานถึง 3 เดือน

สำหรับการปรุงเป็นรสต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น รสสาหร่าย ก็ให้นำสาหร่ายอบแห้งที่เตรียมไว้มาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดพอประมาณ จากนั้นก็นำไปคลุกเคล้ากับกล้วยตอนที่ทอดเสร็จแล้ว ปรุงรสเพิ่มเติมด้วย พริกไทยป่น เกลือป่น และน้ำตาลไอซิ่ง ทำการผสมคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันทั่ว ก็จะได้กล้วยไข่เมืองลุง รสสาหร่าย

ผลิตภัณฑ์ “กล้วยเมืองลุง” หรือ Phatthalung Banana Chips เจ้านี้มีทั้งแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง บรรจุในถุงใสน้ำหนัก 150 กรัม และซองสีเขียวน้ำหนัก 140 กรัม ราคาส่ง 16 บาท ส่วนราคาขายปลีกขึ้นอยู่กับพื้นที่ เริ่มต้นที่ 20 บาท 25 บาท และ 35 บาท

ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์มีสมาชิกกว่า 160 ชีวิต แบ่งหน้าที่กันตามความถนัด ผลิตสินค้าหลากหลายชนิด เฉพาะ “กล้วยเมืองลุง” สร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกเดือนละ 4-5 พันบาทต่อคน อีกทั้งชาวสวนกล้วยไข่ก็พลอยมีรายได้ดีจากการขายกล้วยดิบอีกด้วย

หากสนใจต้องการศึกษาวิธีการแปรรูปกล้วยไข่ติดต่อได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ 104 หมู่ที่ 3 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โทร. 0-7460-5659, 08-6292-1923 แล้วจะได้รู้ว่า “กล้วย” ก็มิใช่ผลไม้บ้าน ๆ เชย ๆ ใครอาจจะมองว่าก็แค่ “กล้วย” แต่เมื่อบวกไอเดียดี ๆ เข้าไป ก็อาจทำให้ “รวย” ได้ !!

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=38330&categoryID=525

No comments: