Wednesday, October 21, 2009

แนะนำอาชีพ‘กากถั่วเหลือง’

มีคุณค่า-เป็นสินค้าทำเงิน

จากถั่วเหลือง” ที่เหลือจากการผลิตนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ ยังมีคุณค่า เมื่อนำไปอบแห้งจะประกอบด้วยโปรตีน 24-28% ไขมัน 8-12% เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ 40-44% เส้นใยอาหารที่ละลายน้ำ 12-15% รวมทั้งมีเกลือแร่และสารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งกากถั่วเหลืองนี้สามารถใช้ทำ “ผลิต ภัณฑ์อาหาร” แทนแป้งสาลีได้ โดยวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำผลิตภัณฑ์จากกากถั่วเหลืองมานำเสนอ...

เรื่องของกากถั่วเหลืองเป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการประชาสัมพันธ์คหกรรมศาสตร์ โครงการ “บ้านสวยด้วย 3R มากคุณค่าอาหารไทยชิมผัดไทยแชมป์โลก” เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ ศูนย์เทเวศร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) โดย ปริญญาพร อ่อนคล้าย และ ภูมิสิทธิ์ ประดิษฐ์ธีระ นักศึกษาปริญญาโท คณะคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เจ้าของผลงาน “ผลิตภัณฑ์จากกากถั่วเหลือง” บอกว่า กากถั่วเหลืองที่มักจะถูกทิ้ง ที่จริงมีประโยชน์ จึงคิดนำมาเป็นส่วนผสมของขนมและอาหาร 3 ชนิดคือ คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ, กรอบเค็ม, น้ำพริกเผา เพื่อให้กากถั่วเหลืองเกิดประโยชน์ ไม่ถูกทิ้งไปสูญเปล่า

ก่อนหน้านั้นเคยทดลองทำด้วยกากถั่วเหลืองที่เหลือสด ๆ จาก การทำน้ำถั่วเหลือง แต่ปรากฏว่ามีกลิ่นสาบและความชื้น อาหารที่ทำออกมามีเนื้อเหลวใช้การไม่ได้ จึงเปลี่ยนวิธี และพบว่าการอบแห้งเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยใช้การอบด้วยเตาไมโครเวฟ เกลี่ยกากถั่วเหลืองให้แผ่ออก อบด้วยความร้อน 150 องศา ระยะเวลา 30 นาที ระหว่างอบหมั่นเกลี่ยเรื่อย ๆ โดยกากถั่วเหลืองสด 1,000 กรัม อบแห้งแล้วจะเหลือ 500 กรัม

สำหรับการนำมาทำเป็นอาหาร เริ่มที่ “คุกกี้ช็อกโกแลตชิพกากถั่วเหลือง” ส่วนผสมก็มี กากถั่วเหลืองอบแห้ง 250 กรัม ต่อแป้งสาลี 500 กรัม, เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา, เนยสด 454 กรัม, น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 450 กรัม, เกลือ 1 ช้อนชา, ไข่ไก่ 3 ฟอง และช็อกโกแลตชิพ 200 กรัม

วิธีทำ ร่อนแป้งสาลีกับเบกกิ้งโซดา แล้วนำแป้งมาผสมกับกากถั่วเหลือง พักไว้ จากนั้นตีเนยสด น้ำตาลไอซ์ซิ่ง เกลือ ให้ขึ้นฟูด้วยหัวตีใบไม้ แล้วใส่ไข่ทีละฟอง ใส่กลิ่นวานิลลาผสมพอเข้ากัน ตามด้วยใส่ส่วนผสมแป้ง และใส่ช็อกโกแลตชิพเล็กน้อย จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาปั้นก้อนเล็ก ๆ แล้วแต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพอีกเล็กน้อย นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 13-15 นาที หรือจนขนมสีเหลืองสุก ซึ่งเตาอบนี้ให้ทำการอุ่นเตาอบโดยเปิดอุณหภูมิ 180 องศา นาน 10-15 นาที ก่อนอบจริง เพื่อให้ได้อุณหภูมิคงที่ 180 องศา

ตามสูตรนี้จะทำคุกกี้ได้ 45 ชิ้น (ตัวคุกกี้เบอร์ 12) ขายได้ในราคา 50 บาท มีต้นทุนประมาณ 20 บาท

ต่อไป “กรอบเค็มกากถั่วเหลือง” ใช้กากถั่วเหลืองอบแห้ง 1 ถ้วยตวง ต่อแป้งสาลี 100 กรัม, แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม, ผงฟู 1/2 ช้อนชา, ไข่ไก่ 2 ฟอง, เกลือ 1 ช้อนชา, น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืช 2 ช้อนชา

วิธีทำ ร่อนแป้ง 2 ชนิดกับผงฟูให้เข้ากัน แล้วผสมแป้งที่ได้กับกากถั่วเหลืองให้เข้ากัน ใส่น้ำมันพืช ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด นวดจนแป้งนุ่ม (ถ้าแป้งแห้งเติมน้ำเล็กน้อย) แบ่งแป้งเป็น 4 ก้อน คลึงแป้งแผ่เป็นแผ่นบาง ตัดเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1 นิ้ว แล้วนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจนแป้งเหลืองสุก ตักขึ้นใส่กระชอนพักไว้

กรอบเค็มนี้ต้องมี “น้ำปรุงรส” ด้วย ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้ น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย, น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย, กระเทียม 1/2 ถ้วย, พริกไทย 1/4 ช้อนชา และแบะแซ 50 กรัม โดยวิธีทำน้ำปรุงรสคือ ตีกระเทียมกับพริกไทยให้เข้ากัน แล้วนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ผสม เคี่ยวจนงวดได้ที่ เสร็จแล้วก็นำไปคลุกกับแป้งกรอบเค็มที่ทำไว้

จากสูตรนี้จะทำกรอบเค็มได้ 200-250 กรัม บรรจุขายกล่องละ 20-25 บาท มีต้นทุนประมาณ 10 บาท

ปิดท้ายด้วย “น้ำพริกเผากากถั่วเหลือง” ซึ่งมีส่วนผสม ได้แก่ กากถั่วเหลืองอบแห้ง 1 ถ้วยตวงต่อหอมแดงซอย 1 ถ้วย, กระเทียมซอย 1 ถ้วย, พริกขี้หนูแห้ง 30 เม็ด, พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด, น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม, น้ำปลา 1/3 ถ้วย, น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย และน้ำมันพืช 3/4 ถ้วย

วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เจียวหอมแดง และเจียวกระเทียม พักไว้ จากนั้นปั่นพริก 2 ชนิดรวมกัน นำลงผัดในน้ำมันให้หอม ตามด้วยใส่กากถั่วเหลืองอบแห้ง ใส่หอมแดงเจียว กระเทียมเจียว ผัดพอเข้ากัน เสร็จแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ผัดต่อจนแห้ง เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น แล้วบรรจุใส่กล่อง

สูตรนี้จะได้น้ำพริก 20 กระปุก กระปุกละ 80 กรัม ขายได้กระปุกละ 15 บาท มีต้นทุนประมาณ 7-8 บาท

ใครสนใจเรื่อง “ผลิตภัณฑ์จากกากถั่วเหลือง” ทั้งคุกกี้ช็อกโกแลต ชิพ, กรอบเค็ม, น้ำพริกเผา ต้องการติดต่อ ปริญญาพร อ่อนคล้าย และ ภูมิสิทธิ์ ประดิษฐ์ธีระ นักศึกษาปริญญาโท คณะคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เจ้าของผลงาน ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-5482-5570 และ 08-6633-8546.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=26621&categoryID=525

No comments: