Wednesday, October 21, 2009

แนะนำอาชีพ‘อาหารเจ’

‘อาหารเจ’ พร้อมทำเงิน

“ช่องทางทำกิน” วันนี้ยังคงเป็นข้อมูลอาชีพ “ขายอาหารเจ” รับ “เทศกาลกินเจ” ที่ใกล้จะมาถึง โดยวันนี้มีเมนูประเภท “ผัด” มาเปิดสูตรอีก 3 สูตรคือ...“ผัดหมี่เจ-ผัดโปรตีนเกษตรเจ-ผัดมะเขือยาวเจ”

อุไรวรรณ ติยะวัฒน์วิทยา เจ้าของ วินรถสองแถวรับ-ส่งในซอยย่านจรัญสนิทวงศ์ 37 เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารเจ เธอเล่าว่า ช่วงเทศกาลกินเจจะเป็นช่วงที่อาหารเจได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งก็เคยมีความคิดที่จะทำขายเหมือนกัน แต่คนในครอบครัวห้ามไว้ เพราะไม่อยากให้เหนื่อยมาก และเพราะความใจดีชอบช่วยคน ถ้าทำขายก็คงจะได้กำไรไม่คุ้มเหนื่อย ประกอบกับอายุมากแล้ว จึงไม่ทำขาย แต่เปลี่ยนเป็นทำแจก 1 วันในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งก็ทำแจกแบบนี้ติดต่อกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม วันนี้คุณอุไรวรรณจะเปิดสูตรเมนูอาหารเจให้ 3 สูตรคือ...

“ผัดหมี่เจ” ส่วนประกอบหลักคือ เส้นหมี่เหลืองกลม ๆ ใหญ่ ๆ ราคา กก.ละไม่เกิน 25 บาท, หัวไชโป๊สับฝอย, เต้าหู้หั่น, เห็ดหอม, คะน้า, กะหล่ำปลี, แครอท, เห็ดฟาง ส่วนเครื่องปรุงรสนั้นก็มี ชูรสเจ, ซีอี๊วขาว, ผงปรุงรสเจ (แบบก้อน-นำไปละลายน้ำ), น้ำตาลทราย และน้ำเห็ดหอมปั่น

การผัดหมี่เจนั้น คุณอุไรวรรณบอกว่า ง่ายมาก แต่ว่าผัดแล้วจะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปรุงรสเป็นหลัก โดยคนทานนั้นส่วนมากจะเน้นทานผักและเต้าหู้มากกว่าเส้น การผัดนั้นก็ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช รอให้ร้อนก็ใส่หัวไชโป๊ลงไป ใส่เห็ดหอม เห็ดฟาง ลงไปผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงผัด ตามด้วยผักต่าง ๆ แล้วก็ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงตามชอบ โดยเน้นให้มีรสชาติกลมกล่อมพอดี ๆ ผัดต่อไปสักพักจนผักสุก เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเจคุณอุไรวรรณ คือการใช้น้ำเห็ดหอมปั่นเป็นส่วนผสมด้วย ซึ่งการทำก็นำเห็ดหอมไปแช่น้ำจนนิ่ม จากนั้นนำไปปั่นกับน้ำพอประมาณ ปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปต้มให้สุก ปรุงรสกับซีอิ๊วขาวพอประมาณ เท่านี้ก็ใช้ได้ ซึ่งน้ำเห็ดหอมนี้ทำแล้วสามารถเก็บใส่ตู้เย็นไว้ใช้คราว ต่อ ๆ ไปได้

คุณอุไรวรรณบอกว่า ผัดหมี่เจนั้น 1 กก. จะลงทุนไม่เกิน 60 บาท ขายได้ประมาณ 200 บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนกำไรที่น่าสนใจทีเดียว ส่วนอาหารเจอื่น ๆ โดยทั่วไปจะมีกำไรครึ่งหนึ่งจาก ราคาที่ตั้งขาย

ต่อไปเป็น “ผัดโปรตีนเกษตร เจ” เคล็ดลับที่ทำโปรตีนเกษตรอร่อยนั้น คุณอุไรวรรณ บอกว่า ก่อนอื่นต้องนำไปแช่น้ำแล้วตากแดดให้แห้งสนิท จากนั้นทอดโปรตีนเกษตรให้กรอบ แล้วจึงนำไปผัด อย่าทิ้งไว้นาน เพราะถ้าทิ้งไว้นานแล้วโปรตีนจะไม่กรอบเลย

เมื่อทอดโปรตีนเกษตรเสร็จแล้ว ก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอประมาณ เมื่อน้ำมันร้อนใส่พริกแกงพอประมาณลงไปผัด แล้วใส่โปรตีนเกษตรที่ทอดแล้วลงไป ปรุงรสด้วยผงปรุงรสก้อน-ละลายน้ำ, น้ำมันหอย, ชูรสเจ, น้ำตาลปี๊บ และงาขาว ชิมรสดูให้ได้ที่ แล้วผัดไปเรื่อย ๆ ให้เข้ากัน ระหว่างผัดอย่าให้ไฟแรงไป เพราะจะไหม้ เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย และใบมะกรูดหั่นฝอยพอประมาณ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว

อีกสูตรคือ “ผัดมะเขือยาวเจ” เป็นเมนูเจยอดฮิตอีกเมนูหนึ่ง คุณอุไรวรรณบอกว่า ผัดมะเขือยาวเจจะอร่อยได้นั้น จะต้องหักมะเขือยาวเป็นท่อน ๆ แทนการหั่น เพราะการปรุงรสต่าง ๆ จะซึมเข้าเนื้อมะเขือยาวได้ดีกว่าการหั่น โดยมะเขือยาวที่หักแล้วให้แช่น้ำและใส่เกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้มะเขือยาวดำ

การผัดก็เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะใส่น้ำมัน เมื่อน้ำมันร้อนใส่หัวไช โป๊ลงผัด ใส่พริกแกงพอประมาณ ใส่มะเขือยาวที่เตรียมไว้ลงผัด เติมน้ำเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว, น้ำเห็ดหอมปั่น, เกลือ, ชูรสเจ ชิมรสให้ออกรสกลมกล่อมพอดี ๆ แล้วปิดฝาครอบลงไปเพื่อให้มะเขือสุก เมื่อมะเขือสุกแล้ว โรยใบโหระพาลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย พร้อมรับประทานหรือจำหน่าย

ใครที่กำลังคิดจะทำ “อาหารเจ” ขาย บางที “เมนูผัด” 3 เมนูที่ว่ามาอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี ก็ลองนำสูตรไปฝึกฝนทำกันดู หรือใครอยากจะสอบถามเพิ่มเติม อยากจะขอคำแนะนำจากคุณอุไรวรรณ ติยะวัฒน์วิทยา ก็ลองโทรศัพท์ไปที่หมายเลข โทร. 0-2412-5518 (ช่วงเวลา 15.00-19.00 น. เท่านั้น).

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=25285&categoryID=525

No comments: