Saturday, January 28, 2012

แนะนำอาชีพ “พิซซ่าสมุนไพร”

แนะนำอาชีพ “พิซซ่าสมุนไพร” หน้าไทยๆ คือจุดขาย
“พิซซ่า” แม้ไม่ใช่อาหารไทย แต่หลายปีมาแล้วที่เด็กไทย-คนไทยรุ่นใหม่ ๆ ให้ความนิยมชมชอบอาหารชนิดนี้ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการขายพิซซ่าอีกรูปแบบหนึ่งมาให้ลองพิจารณากัน นัยว่าถูกปากคนไทยที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พิซซ่าที่จะมาดูกันวันนี้คือ “พิซซ่าสมุนไพร” หลากหลายหน้า...

ศิริวรรณ สัจจะเวนะ เจ้าของธุรกิจ อินเตอร์ พิซซ่า (Inter Pizza) เล่าให้ฟังว่า เรียนจบคหกรรมศาสตร์ เคยทำงานเป็นวิทยากรสอนทำอาหารโครงการบ้านพักฉุกเฉินเพื่อช่วยให้ผู้หญิงที่ โดนทำร้ายมีอาชีพ และก็ได้รู้จักกับเจ้าของธุรกิจส่งผลไม้ไปต่างประเทศ ซึ่งชวนไปทำงานด้านแปรรูปผลไม้ตกเกรดเพื่อเพิ่มมูลค่า ที่ประเทศคูเวต โดยผลงานก็เข้าตาผู้บริหาร เพราะเธอพยายามปรับตัวเพื่อให้เข้ากับทีมงาน ศึกษาหาความรู้ ช่วยปรับเปลี่ยนรูปแบบครัวให้มีระบบมากขึ้น

“อย่างทุเรียนที่ค้างสต๊อกจนนิ่ม ก็นำมากวนทำเป็นไส้ขนม ทำเป็นแยม ปรากฏว่าขายดีมาก และได้ราคาดีกว่าทุเรียนสด ทางผู้บริหารก็พอใจ และตั้งแต่ตอนนั้นก็แปลกใจว่าทำไมผู้บริหารถึงชอบกินพิซซ่ากันมาก ซึ่งแป้งจะแข็งมาก ทำให้คิดลองทำตัวแป้งให้นิ่มขึ้น พอสบโอกาสก็ใช้เวลาคิดค้นและทดลองทำอยู่นานเป็นปี จนได้ตัวแป้งที่นุ่มเหนียว และก็ลองให้ผู้บริหารชิม ก็ติดใจ จากนั้นก็นำเอาตัวแป้งพิซซ่านี้ออกสู่ตลาด สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก”

ทำงานอยู่คูเวตหลายปี ศิริวรรณก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย โดยต้องการนำสูตรแป้งพิซซ่ากลับมาด้วย ซึ่งผู้บริหารก็ขอซื้อสูตร แต่ไม่ขายสูตร ก็มีการตกลงกันว่าให้บริษัทจัดเงินจำนวนหนึ่งให้เพื่อนำมาทำทุนผลิตแป้งพิซ ซ่าจำหน่ายในเมืองไทย ขณะที่ศิริวรรณต้องเดินทางไปทำงานให้บริษัทเดือนละครั้ง ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวนี้ก็ตกลงกันได้ด้วยดี

“กลับมาช่วงแรกยังไม่กล้าทำขาย คิดว่าถ้าเราจะทำพิซซ่าเหมือนร้านทั่วไป คนรักสุขภาพคงไม่ตอบรับ เพราะกลัวอ้วน ด้วยโจทย์นี้เอง ก็ทำให้คิดค้นพิซซ่าเพื่อสุขภาพ ใช้ชีสไขมันต่ำ ปรับสูตรให้เข้ากับคนไทย”

หลังลองผิดลองถูกอยู่กว่า 3 เดือน ก็ได้พิซซ่าที่หน้าแปลกตา รสชาติใช้ได้ ลองให้เพื่อนบ้านชิม ก็มีคนชื่นชอบ และมีคนสั่งทำเข้ามามาก หลายคนมาบอกให้เปิดเป็นร้านขึ้นมา เธอเลยเปิดร้านขายอยู่ที่หมู่บ้านเคหะธานี 4 ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านขึ้นมาก็มีกระแสตอบรับดีเกินคาด รวมทั้งพิซซ่าของเธอก็ฉีกความจำเจ แหวกแนวไปจากพิซซ่าทั่วไป ทั้งในเรื่องของรสชาติ ที่ทำออกมาเป็นไทย ๆ และเน้นไปที่กลุ่มคนรักสุขภาพ โดยปัจจุบันมีราว 20 หน้าให้ลูกค้าเลือก คือ ธัญพืช, เห็ดหอม, สาหร่าย, ผักรวม, แกงเขียวหวาน, พะแนง, ผงกะหรี่, ต้มยำ, ต้มข่า, เบคอน, ปูอัดไอร์แลนด์, ซีฟู้ด ฯลฯ

อีกจุดเด่นคือแม้รับประทานไม่หมด ก็เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานหลายวัน อุ่นให้ร้อนเมื่อไหร่ก็อร่อยเหมือนเดิม

จากความพยายามที่จะสรรหาความแปลกใหม่มาต่อยอดกับสิ่งที่ทำอยู่ เมื่อศิริวรรณมั่นใจในเรื่องรสชาติและตัวแป้งพิซซ่า ต่อมาจึงคิดทำคีออสขายในลักษณะคล้ายแฟรนไชส์ แต่ไม่เรียกค่าแฟรนไชส์ เพียงแต่ผู้ร่วมธุรกิจต้องสั่งซื้อแป้งสำเร็จรูป โดยจะมีการสอนให้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำซอสพิซซ่า การทำหน้า การอบ เทคนิคต่าง ๆ ยกเว้นตัวแป้งเท่านั้นที่ขอสงวนสิทธิไว้ วัตถุดิบประกอบก็แนะนำให้ไปหาซื้อจากแหล่งราคาถูกและมีคุณภาพภายใต้แบรนด์ อินเตอร์พิซซ่า ขณะที่ราคาขายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทำเลแต่ละร้าน เริ่มต้นที่ 49-69 บาท/ถาด ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือหน้าพิซซ่าที่ลูกค้าเลือก

ปัจจุบันผู้ร่วมธุรกิจของศิริวรรณมีกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ และยังเปิดรับผู้ที่ต้องการจะมีธุรกิจหรือเปิดกิจการอะไรสักอย่างเป็นของตัว เอง ซึ่งก็สามารถเปิดกิจการได้ด้วยเงินลงทุน 3,250-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจการ

“ทุกขั้นตอนการทำ เราตั้งใจทำขึ้นมาจริง ๆ และวิชาที่ถ่ายทอดต่อ ๆ ให้ไปเราก็ถือว่าเป็นวิทยาทาน เราคิดว่าเราช่วยใครได้บ้าง การจะทำอาชีพอะไรสักอย่าง ความจริงแล้วมีอาชีพเยอะแยะมากมายให้เลือก มีหลายเส้นทางให้เลือกทำ ซึ่งถ้าเราตั้งใจทำอย่างจริงจัง ทุกอย่างก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าใครมาลงทุนกับเรา เราก็ต้องช่วยเหลือให้มากเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะเรารู้ว่าทุกคนที่ลงทุนย่อมหวังผลที่จะตามมาจากการลงทุนแน่นอน” ศิริวรรณระบุ

ใครสนใจติดต่อกับ ศิริวรรณ สัจจะเวนะ เรื่องกิจการพิซซ่า ก็ติดต่อได้ที่ โทร.0-2927-5979, 08-0912-5757 หรืออยากปรึกษา อยากเรียนรู้การทำอาหารอย่างอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็สามารถรวมกลุ่มไปขอคำแนะนำได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ศิริวรรณเห็นว่าการลงทุนแต่ละอย่างเป็นเรื่องใหญ่มาก และยินดีจะให้คำปรึกษา.


แนะนำอาชีพ “พิซซ่าสมุนไพร” http://www.dailynews.co.th/article/384/9782

No comments: