Saturday, July 9, 2011

แนะนำอาชีพ 'ไส้อั่วหน่อกะลา'

“ไส้อั่ว” อาหารท้องถิ่นของภาคเหนือที่มีขายกันทั่วไป หากมีการประยุกต์สร้างจุดขายให้แปลกแตกต่างออกไป ก็สามารถสร้างจุดขายให้มีลักษณะเด่นยิ่งขึ้น กลายเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่สร้างอาชีพ-สร้างรายได้ได้อย่างดี อย่าง “ไส้อั่วหน่อกะลา” สินค้าโอทอป จ.นนทบุรี นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา...

ดวงใจ แสงงามปลั่ง ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปไส้อั่วสวนนนท์ เผยไว้เมื่อตอนนำสินค้าร่วมแสดงในงานกาชาด จ.นนทบุรี เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า เป็นคนภูมิลำเนา อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังเรียนจบก็ไปทำงานที่เชียงใหม่กับลำพูนประมาณ 3–4 ปี และแต่งงานที่นั่น ภายหลังก็คิดอยากกลับบ้านเกิด เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็ได้นำอาชีพทำไส้อั่วขายมาศึกษา เพราะครอบครัวของสามีมีอาชีพทำไส้อั่วขายอยู่แล้ว ซึ่งไส้อั่ว แคบหมู สำหรับคนเชียงใหม่นั้นถือเป็นอาหารพื้นบ้าน และตนเองได้เริ่มทำไส้อั่วเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่เมื่อมาอยู่ที่ จ.นนทบุรี เหมือนเริ่มต้นใหม่จากที่สามีเคยทำ ซึ่งสมัยนั้นการทำไส้อั่วขายไม่ค่อยมีคู่แข่ง ถ้ามีก็มีน้อยมาก โดยตนเองก็ได้ลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมา

ไส้อั่วที่ทำช่วงเริ่มต้นมี 2 แบบ คือ ไส้อั่วหมู ไส้อั่วปลา ต่อมาเพิ่ม ไส้อั่วหน่อกะลา ด้วย เพื่อสื่อความหมาย จ.นนทบุรี เพราะหน่อกะลาเป็นพืชสมุนไพรของเกาะเกร็ดที่มีแห่งเดียวในนนทบุรี จึงนำมาใส่เพื่อประยุกต์ และให้เป็นสินค้าของนนทบุรี ส่วนการพัฒนาวัตถุดิบอื่น คือใช้ตะโพกหมูล้วน ๆ ในการทำไส้อั่ว ไม่ใช้เศษหมู และวัตถุดิบที่สำคัญคือมันหมู

นอกจากนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบ จากที่เป็นวงใหญ่ ๆ กลายเป็นขดกลม ๆ ที่มีขนาดเล็กหน่อย เป็นในลักษณะค่อนข้างครึ่งวงกลม เพื่อจะช่วยเรื่องยอดจำหน่าย ให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น จึงคิดริเริ่มทำให้ขนาดเล็กลง

ดวงใจบอกอีกว่า สำหรับสูตรการทำไส้อั่วหมูกับไส้อั่วปลา ก็ไม่ได้ต่างกันมาก เพียงแต่บางคนชอบกินปลาเพราะมันจะนุ่มกว่าหมู ปลาที่ใช้ก็จะเป็นปลากรายกับปลายี่สก ถ้าใช้ปลากรายอย่างเดียวต้นทุนจะสูงมาก จึงนำปลาน้ำจืดชนิดอื่นมาผสมด้วย สาเหตุที่ต้องเป็นปลาน้ำจืด เพราะหากนำปลาน้ำเค็มมาผสมจะทำให้มีกลิ่นคาว

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำก็มี เครื่องบดหมู เครื่องตีผสม เครื่องสุญญากาศ กะละมัง ทัพพี ถังน้ำ หม้อนึ่ง เครื่องบดพริก เตาแก๊ส กระทะ ฯลฯ ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ก็มี หมูสันนอก มันแข็ง ไส้หมู น้ำพริกแกง ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผักชี ต้นหอม ใบมะกรูด และหน่อกะลา ซึ่งวัตถุดิบในการทำไส้อั่วหมูหน่อกะลา 10 กิโลกรัม จะมีดังนี้คือ หมูสันนอก 8 กิโลกรัม, มันหมูแข็ง 2 กิโลกรัม, หน่อกะลา 1-2 กิโลกรัม, พริกแกง 2.5 กิโลกรัม โดยเครื่องปรุงพริกแกงก็มี พริกแดงแห้งเม็ดใหญ่ 500 กรัม, หอมแดง 500 กรัม, กระเทียม 300 กรัม, กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้ 1 กิโลกรัม (ซอยเอาแต่เนื้ออ่อน ๆ)

ส่วนผสมเครื่องปรุงรส ก็มี ซีอิ๊วขาว 500 ซีซี., น้ำตาลทราย 300 กรัม, ผงปรุงรสรสหมู 300 กรัม และส่วนผสมอื่น ๆ ก็คือ ใบมะกรูด, ผักชี, ต้นหอม อย่างละพอประมาณ หากชอบสมุนไพรก็ใส่ใบโหระพาหรือผักชีฝรั่งเพิ่มได้

วิธีทำ นำเครื่องปรุงพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กะปิ และตะไคร้ มาตำหรือบดรวมกันให้ละเอียด ก็จะได้เป็นพริกแกง จากนั้นนำหมู และมันหมู มาบดรวมกัน ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสรสหมู ใบมะกรูด ผักชีและต้นหอม คลุกรวมกัน เสร็จแล้วนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน กรอกส่วนผสมทั้งหมดลงไปในไส้หมูที่กว้าง 1 นิ้วครึ่ง ยาว 7 นิ้ว โดยใช้เครื่องบดน้ำพริกในการบรรจุ (ตัวเครื่องสามารถใส่กรวยเพื่อกรอกไส้อั่วได้) เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงมัดปลายทั้ง 2 ข้างโดยการบิดไส้หมูให้เป็นเกลียว เสร็จแล้วนำไปนึ่งให้สุก และนำไปผึ่งให้แห้ง การทำเป็นไส้อั่วหน่อกะลา ก็นำหน่อกะลามาซอยและผสมลงไปด้วย ปริมาณ 2 กิโลกรัม ถ้าไม่ชอบหน่อกะลามากก็ให้ใส่แค่ประมาณ 1 กิโลกรัม

ขั้นตอนสุดท้าย ใส่ถุงเก็บไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ซึ่งระยะเวลาของการเก็บรักษานั้น จะเก็บไว้ได้ประมาณ 1 เดือน

ดวงใจบอกเคล็ดลับเพิ่มเติมว่า การทำไส้อั่ว ต้องหนักตะไคร้ และใบมะกรูด เพราะกลิ่นมันจะหอม ส่วนในการทำไส้อั่วปลา ก็จะลดปริมาณหมู คือจะใช้ปลา 5 กิโลกรัม และหมู 3 กิโลกรัม

สำหรับราคาขายไส้อั่วเจ้านี้ จะขายขีดละ 30 บาท หรือกิโลกรัมละ 300 บาท โดยมีต้นทุนราว 200 บาทขึ้นไป

สนใจเรื่อง “ไส้อั่วหน่อกะลา” ติดต่อ ดวงใจ แสงงามปลั่ง ติดต่อได้ที่ 92/41 หมู่ 9 บางเลน ซอย 10 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 08-9660-0768 และ 08-1869-4780.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=150035

No comments: