Saturday, April 30, 2011

แนะนำอาชีพ 'มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ในวงบ่อ'

มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 นี้เป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมของ มะนาวแป้นรำไพ กับ มะนาวน้ำหอมอุดร และตั้งชื่อว่า “มะนาวพันธุ์พิจิตร 1” หรือ “มะนาวแป้นพิจิตร 1” มะนาวพันธุ์ใหม่ที่มีความทนทานต่อ “โรคแคงเกอร์” ได้สูง

มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 มีข้อเด่นคือติดผลดกมาก ผลมีขนาดใหญ่ เปลือกผลค่อนข้างบาง ให้น้ำเยอะ มีรสเปรี้ยวจัด จึงได้รับความนิยมปลูกกันแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะเกษตรกรทางภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเป็นมะนาวปลูกง่ายเป็นไม้พุ่มสูง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนาม ใบเป็นใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว ออกเรียงสลับเป็นรูปรีหรือรูปไข่แกมขอบขนาน เนื้อใบมีจุดน้ำมันกระจายทั่ว ก้านใบมีครีบเล็ก ๆ สีเขียวเข้ม ใบเมื่อขยี้จะมีกลิ่นหอม

ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด กลีบดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมแบบ สะอาด ๆ ชื่นใจดี กลีบดอกร่วงง่าย “ผล” เป็นรูปทรงกลมกึ่งแป้น ก้นผลตัดเรียบ เนื้อในฉ่ำน้ำ เปลือกผลค่อนข้างบาง เมล็ดมีน้อย ให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด น้ำมีกลิ่นหอม ขนาดของผลมีขนาดใหญ่กว่ามะนาวทั่วไปชัดเจน

ผลติดเป็นพวง 3-5 ผล ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง สำหรับดินปลูก ควรเลือกหน้าดินที่มีอินทรียวัตถุเพียงพอ ใช้หน้าดิน 2 ส่วน ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน หรือใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักในอัตรา 3 ต่อ 2 หรือดินร่วนผสมปุ๋ยคอกในอัตรา 3 ต่อ 1 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันดี ใส่ดินที่ผสมแล้วลงในวงบ่อให้เต็มถึงขอบบ่อโดยให้ดินแน่นพอควรแล้วพูนดิน เป็นรูปหลังเต่าสูงประมาณ 6–8 นิ้ว เลือกกิ่งพันธุ์ที่แข็งแรงเจริญเติบโตสมบูรณ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้และต้อง เป็นกิ่งพันธุ์ที่ทนต่อโรค เพื่อป้องกันโรคแคงเกอร์

เจาะหลุมตรงกลางวงบ่อซีเมนต์ให้ลึกพอประมาณ นำกิ่งพันธุ์มะนาวที่เตรียมไว้วางในหลุมให้ลึกประมาณ 5 นิ้ว โดยแผ่รากมะนาวไม่ให้ขดเป็นก้อน กลบดินที่โคน ปักไม้และผูกกับต้นมะนาวเพื่อป้องกันการโยกของต้นเพื่อไม่ให้รากกระเทือน แล้วใช้เศษหญ้าคลุมหน้าดิน รดน้ำให้ชุ่มหลังจากใช้เศษหญ้าคลุมหน้าดินแล้ว

สัปดาห์แรกรดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งให้ดินชุ่ม (ถ้าฝนไม่ตก) และควรให้น้ำครั้งละน้อย ๆ โดยเปิดสปริงเกอร์ ใช้เวลาเพียง 5 นาทีต่อครั้ง ถ้าให้น้ำมากกว่านี้น้ำจะชะล้างเอาดินออกมาด้วยทำให้ดินยุบตัวเร็ว จากนั้นรดน้ำวันเว้นวัน หรือรดน้ำเมื่อดินแห้งหรือใบสลด

จากนั้นก็รอวันออกดอกบำรุงต้นด้วยการให้น้ำตามระยะดังที่กล่าวมาข้างต้น แล้วรอวันเก็บเกี่ยวเมื่อมะนาวออกลูกพร้อมใช้ประโยชน์ต่อไป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=135698

No comments: