Sunday, March 20, 2011

แนะนำอาชีพ 'ยาดมสมุนไพร'

จากความชอบส่วนตัวก็สามารถทำให้กลายเป็นอาชีพมานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานเย็บปักถักร้อย งานประดิดประดอยต่าง ๆ ซึ่งถ้าตลาดไปได้ดี มีคนนิยมชมชอบ จากแค่อาชีพเสริมสร้างรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นอาชีพหลักได้เลย อย่างการทำ “ยาดมสมุนไพร” ขาย นี่ก็อยู่ในข่าย และก็เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ยังไม่ตกยุค...

หมู-พฤทธิ์ พิมพบุตร เป็นเจ้าของยาดมสมุนไพร “บุษย์น้ำทอง” ซึ่งมีสถานที่ในการผลิตคือที่บ้านของตัวเอง โดยมีญาติ ๆ และคนในครอบครัวเป็นผู้ช่วยผลิตในแต่ละขั้นตอน เจ้าตัวเริ่มต้นผลิตจริงจังตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา และเริ่มจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน พฤทธิ์บอกว่า แรงบันดาลใจมาจากความชอบส่วนตัวที่เป็นคนชอบการดมยาดมอยู่เป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าดมแทบจะทุกยี่ห้อเลยก็ว่าได้ และก็ไปเจอยาดมสมุนไพรยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งรู้สึกประทับใจในกลิ่นอย่างมาก เพราะมีความแตกต่างจากยาดมยี่ห้ออื่น ๆ ที่เคยดมมา ยิ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจ

อยากผลิตเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง จึงไปเรียนการทำยาดมสมุนไพรที่ชมรมอนุรักษ์สมุนไพรไทย ซึ่งขณะที่เรียนนั้นทุกคนก็ต้องทำสูตรเดียวกันหมด ซึ่งเป็นสูตรของอาจารย์ ทำให้ไม่มีความแปลกใหม่และแตกต่าง จึงได้ศึกษาเพิ่มเติม และนำสิ่งที่เรียนจากชมรมนี้มาปรับสูตรการทำยาดมสมุนไพรให้แตกต่างออกไปจาก ที่เคยเรียนมา ซึ่งกว่าจะลงตัวก็ใช้ระยะเวลาพอสมควร ก่อนจะนำไปขาย ก็เริ่มจากแจกจ่ายให้ญาติ ๆ และเพื่อนฝูงได้ทดลองใช้ก่อน

เจ้าตัวเล่าอีกว่า ความแตกต่างของสูตรยาดมสมุนไพรของตนนั้น คือการใช้ ผิวมะกรูด นอกจากนี้ยังมีการนำเมนทอล และยูคาลิปตัส มาผสมในตัวยาดมด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่ทดลองทำยาดมแรก ๆ นั้น มีส่วนผสมทั้งหมด 13 ชนิดคือ กานพลู พริกไทยดำ โกฐหัวบัว โกฐสอ เปลือกสมุลแว้ง ดอกจันทน์ แก่นจันทน์ขาว ผิวมะกรูด โป๊ยกั๊ก พิมเสน เมนทอล การบูร แต่ปัจจุบันได้ตัดเปลือกสมุลแว้ง และโป๊ยกั๊กออกไป

สมุนไพรที่ใช้ในการทำยาดมทุกอย่างนั้นหาซื้อได้ที่ร้านค้าย่านแยกวัดตึก กรุงเทพฯ แต่ละชนิดมีราคาตั้งแต่ 70–1,500 บาท ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาสมุนไพรสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมากเกือบ 50% เนื่องจากมีผู้นิยมนำมาทำยาดมมากเช่นกัน สมุนไพรบางตัวราคา กก.ละกว่า 1,000 บาท เช่น ดอกจันทน์ ราคา กก.ละ 1,200–1,300 เมนทอล ราคา กก.ละ 1,500 บาท แต่บางอย่างก็ราคาไม่แพง อาทิ แก่นจันทร์ขาว ราคา กก.ละ 70 บาท ส่วนพริกไทยดำ และกานพลู ราคา กก.ละประมาณ 350-450 บาท

วิธีทำ สมุนไพรทุกอย่างที่นำมาทำ ก็ทำให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ด้วยการผ่า ยกเว้น กระวาน กานพลู พริกไทยดำ และพิเศษตรงลูกมะกรูดสดที่ต้องฝานเอาแต่เปลือกออกมา แล้วนำเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปผึ่งไว้ 2-3 วันก่อน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาใส่ลงในผ้าขาวรวมกัน เฉลี่ยอย่างละ 200 กรัม จากนั้นใช้ผ้าพลาสติกคลุมไว้ 2-3 วัน

ส่วน พิมเสน เมนทอล การบูร จะแยกไปตุ๋นไว้ต่างหาก

พฤทธิ์บอกว่า เคล็ดลับในการทำยาดมสมุนไพรนั้น คือส่วนผสมแต่ละอย่างต้องแห้ง เช่น มะกรูด ยิ่งตากแห้งเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าแต่ละอย่างมีความเปียกหรือแฉะมากเกินไปจะทำให้สมุนไพรไม่เข้าเนื้อกัน ส่วนสถานที่ในการทำยาดมนั้นก็ต้องสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย วิธีทำขั้นต่อมาคือ นำพิมเสน เมนทอล การบูร ปริมาณอย่างละเท่า ๆ กัน มาตุ๋นรวมกัน เพื่อให้ละลายจนได้น้ำออกมาใส่ขวดพักไว้ นำส่วนผสมต่าง ๆ มารวมกันแล้วหมักไว้ 3-5 วันจึงเปิดออก ใช้ไม้คลึง หรือใช้ขวดแก้วมาคลึงเพื่อให้สมุนไพรบางตัวที่เป็นเม็ดแตกออก ให้ส่งกลิ่นหอมออกมา ตักน้ำที่เป็นส่วนผสมของพิมเสน เมนทอล การบูร ประมาณ 15 ช้อนชาลงไปคลุกให้เข้ากัน โดยพฤทธิ์บอกว่า การคลุกสมุนไพรกับน้ำหมักนั้น ต้องค่อย ๆ ตักลงผสมทีละช้อน อย่าตักใส่ลงไปทีเดียวหมด เพราะจะทำให้สมุนไพรแฉะ

เมื่อผสมส่วนผสมครบแล้ว ก็ค่อย ๆ ตักแบ่งใส่ขวดแก้วที่เตรียมไว้ ขวดเล็กใส่สมุนไพร 2 กรัม, ขวดกลาง ใส่ 5 กรัม และขวดใหญ่ใส่ 10 กรัม ปิดฝา และติดสติกเกอร์ให้เรียบร้อย ขายในราคาขวดละ 25, 35 และ 50 บาทตามลำดับ โดยพฤทธิ์บอกว่า หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว จะได้กำไรขวดละประมาณ 30% จากราคาขาย

“สูตรนี้เป็นสูตรโดยเฉลี่ยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน สามารถเพิ่มสมุนไพรบางตัวได้ หากอยากได้กลิ่นหอมของสมุนไพรชนิดนั้น ๆ แต่ข้อสำคัญคือในการผสมอย่าทำให้เกิดความแฉะ สมุนไพรที่ดีต้องแห้ง” พฤทธิ์กล่าวแนะนำ


สนใจ “ยาดมสมุนไพร” ของ พฤทธิ์ พิมพบุตร ติดต่อได้ที่ 29/98 หมู่บ้านวรารักษ์ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โทร. 08-3070-8916 และ 08-5058-9777 หรืออีเมล ppm1629@hotmail.com ซึ่งกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในปัจจุบันยังไม่ตกยุค.


ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% ของราคา

รายได้ ราคาขวดละ 25-50 บาท

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ส่งร้านขายยา-ร้านค้าทั่วไป

จุดน่าสนใจ คนไทยยังนิยมใช้กันมาก

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=127754

No comments: