Thursday, February 3, 2011

แนะนำอาชีพ 'ปลูกพริกเหลือง '

ในบรรดากลุ่มพริกใหญ่หรือพริกชี้ฟ้าทั้งหลาย เมื่อแบ่งตามสีของผลจะมีอยู่หลายสี และที่รู้จักกันดีคือกลุ่มสีเขียวซึ่งมีตั้งแต่ เขียวอ่อน,เขียวเหลืองและเขียวเข้ม เป็นต้น ในขณะที่พริกใหญ่ที่มีสีเหลืองจะเป็นกลุ่มที่หายากและมีราคาแพงที่สุด

ในขณะที่ความต้องการบริโภคพริกเหลืองของคนไทยยังมีความต้องการอย่างต่อ เนื่อง เพราะได้ สีและรสชาติที่มีความหอมเฉพาะตัว ในบางช่วงราคาของพริกเหลืองจะสูงถึงกิโลกรัมละ 100 บาท

การเตรียมพื้นที่ปลูกพริกเหลือง สำหรับเกษตรกรที่เริ่มต้นปลูกพริกในที่ดินใหม่ ค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน ควรมีค่าพีเอช = 6.0-6.8 ถ้าสภาพดินเป็นกรดจะต้องมีการปรับสภาพของดิน ก่อนที่จะทำการไถดินให้ใส่ปุ๋ยคอกอย่างน้อยไร่ละ 1,000 กิโลกรัมหรือ 1 ตัน เมื่อไถดินเสร็จให้ทำการตากดินทิ้งไว้นาน 3-7 วัน

ยกแปลงปลูกสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ยาวไม่ควรเกิน 50 เมตร ในการขึ้นแปลงจะใช้รถไถติดผาล 7 ขึ้นแปลงไป-กลับ 4 รอบ เมื่อขึ้นรอบที่ 5 ให้ใช้เกรดรถไถปรับหลังแปลงให้เรียบเป็นแปลงพริก จากนั้นอาจจะปูพลาสติกและวางสายน้ำหยดหรือจัดระบบการให้น้ำตามความเหมาะสมใน แต่ละพื้นที่

การเพาะเมล็ดพริกที่เกษตรกรไทยนิยมปฏิบัติกันจะแบ่งออกได้ 3 วิธีคือ หยอดเมล็ดลงในถาดเพาะโดยตรง, หว่านในตะกร้าพลาสติกที่ใช้ทรายเป็นวัสดุปลูก กลบด้วยปุ๋ยหมักอินทรีย์หรือขุยมะพร้าว รดน้ำอย่าให้แฉะจนเกินไปเพราะจะทำให้เมล็ดพริกเน่าได้ หลังจากเพาะไปได้ 7-10 วัน ย้ายต้นกล้าลงถาดหลุม ขนาดแปลงเพาะมีความกว้าง 2 เมตร ความยาว 5-10 เมตร โรยเมล็ดให้ลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตร เป็นแถวตามความกว้างของแปลง แต่ละแถวห่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร ใช้ฟางข้าวคลุมแปลงเพาะบาง ๆ ต้นกล้าพริกที่มีอายุเฉลี่ย 25-30 วัน มีความสมบูรณ์และต้นแข็งแรงไม่มีโรครบกวนให้ย้ายลงปลูกในแปลงได้

ปุ๋ยอินทรีย์เป็นปุ๋ยที่มีความจำเป็นในการปลูกพริกใส่เพื่อปรับปรุงโครง สร้างของดินช่วยให้ร่วนซุย หมั่นสังเกตต้นพริกอย่าให้ผลผลิตดกเกินไป อาจจะพบอาการขั้วนิ่ม ปลายผลเหลืองและร่วงหรือที่หลายคนเรียกกันว่าอาการ “กุ้งแห้งเทียม” ก็เป็นได้.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=673&contentID=118963

No comments: